
วันนี้เรามาเจาะต่อกับข้อกล่าวหาที่พุ่งเข้าใส่ "บริษัท เลซี่แคท ทราเวล" ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ท่องเที่ยวที่ภูเก็ต และทำสัญญาเช่าเรือเซเรนาต้าที่ประสบอุบัติเหตุล่มพร้อมกับเรือฟินิกซ์ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ตำรวจไทยเชื่อว่า "บริษัท เลซี่ แคท ทราเวล" น่าจะเป็นบริษัทนอมินีของ "กลุ่มทุนจีน" เป็นเครือข่าย "ทัวร์กินรวบ" ที่เม็ดเงินหมุนเวียนอยู่เฉพาะในกิจการปลายน้ำของคนจีนเท่านั้น โดยใช้คนไทยเป็น "นอมินี" เปิดบริษัทบังหน้า แต่แท้ที่จริงแล้วถูกบริหารจัดการและควบคุมกิจการจากคนจีนทั้งสิ้น
เผอิญว่าที่ประเทศจีนมีบริษัทชื่อคล้ายๆ กันนี้ ชื่อ "บริษัท เลซี่ แคท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด" แถมยังทำหน้าที่ส่งลูกทัวร์คนจีนมาให้ "เลซี่ แคท ทราเวล" ที่ภูเก็ตรับช่วงต่ออีกต่างหาก จุดนี้เองที่ทำให้เจ้าหน้าที่ไทยสงสัยว่า บริษัทเลซี่ แคทฯ ในเมืองไทย คือบริษัทนอมินีของ บริษัท เลซี่ แคทฯ ที่เมืองจีน คำตอบของข้อสงสัยนี้อยู่ที่เส้นทางการเงินระหว่างสองบริษัท ซึ่งวันนี้ คุณชลธิชา รอดกันภัย จะพาไปดูข้อมูลกันชัดๆ ติดตามจากรายงานพิเศษตอนที่ 2 ของล่าความจริง
นี่คือเอกสารสัญญาระหว่าง บริษัท เลซี่ แคท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในประเทศจีน ที่ทำข้อตกลงร่วมกับ บริษัทเลซี่ แคท ทราเวล จำกัด ในประเทศไทย จนถูกตำรวจท่องเที่ยวกล่าวหาว่า บริษัทเลซี่ แคทฯ ที่ภูเก็ต เป็นนอมินีของกลุ่มทุนจีน โดยใช้ชื่อคนไทยตั้งบริษัทเพื่อเลี่ยงกฎหมาย
สัญญาที่ทำระหว่างกันเป็นสัญญาปีต่อปี ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา เป็นการทำข้อตกลงการส่งนักท่องเที่ยวจีนที่ซื้อทัวร์ผ่านหน้าเว็บไซต์ของ บริษัท เลซี่ แคท อินเตอร์เนชั่นแนลฯ ผ่านช่องทางเถาเป่า และอาลีบาบา แพลทฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมของจีน โดยรายละเอียดของสัญญาจะระบุขั้นตอนตั้งแต่นักท่องเที่ยวซื้อทัวร์ ซื้อตั๋วเครื่องบิน รวมถึงการให้บริการนักท่องเที่ยวของ บริษัท เลซี่ แคท ทราเวลฯ ในไทย ในฐานะผู้ร่วมทุนทางธุรกิจ และยังเป็นเจ้าบ้าน ในฐานะเจ้าของพื้นที่ เพราะตั้งอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเลือกเดินทางมา
เอกสารสัญญาเหล่านี้ ประธานกรรมการ บริษัท เลซี่ แคท อินเตอร์เนชั่นแนลฯ เตรียมนำไปมอบให้กับตำรวจ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องของไทย เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ให้คนไทยเป็นนอมินีในการตั้งบริษัททัวร์นำเที่ยว เพื่อเลี่ยงกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว นอกจากนั้นยังมีเอกสารการโอนเงินที่เป็นรายได้จากการซื้อทัวร์ของนักท่องเที่ยว ตามจำนวนลูกค้าที่ส่งให้ บริษัท เลซี่ แคท ทราเวลฯ ด้วย
ประธานกรรมการบริษัท เลซี่ แคท อินเตอร์เนชั่นแนลฯ บอกว่า บริษัท เลซี่ แคท ทราเวล เป็นหนึ่งใน 39 บริษัทนำเที่่ยวของไทย ที่เขาส่งนักท่องเที่ยวเข้ามา สาเหตุที่เลือกลงทุนร่วมกับ บริษัท เลซี่ แคท ทราเวลฯ เนื่องจากชื่อบริษัทคล้ายกัน ถือเป็นการสร้างภาพจำให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากบริษัท เลซี่ แคท ทราเวลฯ แล้ว ทางบริษัทเลซี่ แคทฯ ที่จีน ยังยังร่วมลงทุนกับบริษัทเรือนำเที่ยวในประเทศไทยอีกหนึ่งบริษัทด้วย
กระบวนการเลือกบริษัทนำเที่ยวเพื่อทำสัญญาร่วมงานกัน บริษัท เลซี่ แคท อินเตอร์เนชั่นแนลฯ จะใช้วิธีค้นหาข้อมูลบริษัทท้องถิ่นของประเทศปลายทาง เพื่อศึกษาข้อมูลก่อนทำความตกลงระหว่างกัน
วิธีการทำธุรกิจก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อน โดยเมื่อโพสต์ข้อมูลการท่องเที่ยวขึ้นบนเว็บไซต์ และมีนักท่องเที่ยวเลือกเดินทาง ทันทีที่นักท่องเที่ยวชำระเงิน และเดินทางท่องเที่ยวจนจบทริป บริษัท เลซี่ แคท อินเตอร์เนชั่นแนลฯ จะโอนเงินให้กับบริษัทท้องถิ่นในระยะเวลา 15 วัน หรือไม่เกิน 1 เดือนจากรูปแบบการทำธุรกิจของบริษัททัวร์สัญชาติจีนอย่าง เลซี่ แคท อินเตอร์เนชั่นแนลฯ ทนายความชาวไทยอย่าง ณรงค์ ทองคำ ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายการค้าการลงทุน บอกว่า บริษัททัวร์จีนแห่งนี้น่าจะไม่ได้ใช้คนไทยเป็นนอมินี เพราะมีเอกสารการทำสัญญาระหว่างกันอย่างชัดเจน มีการแบ่งหุ้น และมีผลประกอบการชัดเจน โอนเงินไปมาระหว่างสองประเทศ และยังได้รับการรับรองจากรัฐบาลจีนอีกด้วย
แต่ในมุมมองของตำรวจท่องเที่ยว พันตำรวจเอก อาชยน ไกรทอง รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 มองว่า การที่ชาวต่างชาติใช้คนไทยเป็น "นอมินี" เปิดบริษัทนำเที่ยวในประเทศไทยเพื่อหลบเลี่ยงข้อบังคับตามกฎหมายนั้น ไม่ควรพิจารณาเฉพาะเรื่องการทำสัญญาประกอบธุรกิจร่วมกันเท่านั้น เพราะชาวต่างชาติสามารถว่าจ้างคนไทยให้ใช้ชื่อและอำพรางการถือหุ้นได้ ฉะนั้นการตรวจสอบต้องเจาะลึกให้ถึงที่มาของเงินลงทุนเปิดบริษัทว่ามาจากไหน รวมไปถึงอำนาจการบริหารจัดการของบริษัทท่องเที่ยวในไทย ว่าคนไทยมีอำนาจในการควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือไม่ เพราะมิฉะนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการทำทัวร์แบบกินรวบ โดยที่คนไทยและประเทศไทยไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
จากหลักฐานเส้นทางการเงินของบริษัททัวร์จีน ในมุมมองของเจ้าหน้าที่ไทยยังไม่สามารถสรุปได้ว่านี่คือการใช้คนไทยเปิดบริษัทเป็น "นอมินี" หรือไม่ โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่า การใช้ชื่อบริษัท "เลซี่ แคท" เหมือนกัน เป็นเรื่องบังเอิญ ฉะนั้นในวันพรุ่งนี้มาตามกันต่อถึงรูปแบบการท่องเที่ยวของทัวร์จีนในปัจจุบันว่ามีรูปแบบอะไรบ้าง และทัวร์ต่ำกว่าทุนยังมีอยู่จริงหรือไม่ ติดตามได้ซีรีส์บุกแดนมังกร พิสูจน์ทัวร์ศูนย์เหรียญ ตอนที่ 3