วันนี้ (22 ส.ค.) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 กรมอุทยานฯ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ศปป.4 กอ รมน.พ.ต.ท.ชัย ถิ่นน้ำใส สารวัตรสืบสวนจังหวัดพิษณุโลก สนธิกำลัง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จำนวน 500 นาย บุกรื้อรีสอร์ทฮ่องก๋าฮิลล์โฮมสเตย์ จำนวน 10 หลัง บริเวณทางขึ้นภูลมโล ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
สืบเนื่องจากวันที่ 26 มกราคม 2560 เจ้าหน้าอุทยานฯ จับกุมนายผ้า แซ่หว้า ราษฎร หมู่ที่ 10 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 8 ไร่ 78 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้าง 10 หลัง แต่นายผ้า โวยวายจึงพากลุ่มเพื่อนบ้านนัดรวมตัวเดินทางขึ้นภูลมโล เจ้าหน้าที่ทำการค้นตัวและยึดมีดพกก่อนเข้าไปดูเหตุการณ์เจ้าหน้าที่กำลังรื้อรีสอร์ท แต่เจ้าหน้าที่มีจำนวนมากกว่า จึงไม่มีเหตุการณ์ใดๆ รุนแรง คาดว่าเจ้าหน้าที่ทำการรื้อรีสอร์ททั้ง 10 หลัง เสร็จภายในวันเดียว
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาต่อสู้คดีร้องศาลปกครอง ต่อมาศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งที่คส.3/ 2561 ลงวันที่ 9 เมษายน 2561 กลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น ให้ยกคำขอทุเลาการบังคับรื้อถอนรีสอร์ท ให้ใช้มาตรการทางปกครอง รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ตามมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งได้ โดยไม่ต้องรอคดีถึงที่สุด
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 กล่าวว่า วันนี้ เจ้าหน้าที่รื้อถอนรีสอร์ท ตามมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานฯของอช.ภูหินร่องกล้า หากภายหลังคดีถึงที่สุดว่าเป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฏหมาย ผู้เสียหายก็มีสิทธิฟ้องค่าเสียหายเรียกคืนเอาจากกรมอุทยานฯได้ แต่มั่นใจผู้ต้องหาทำผิดกฏหมายชัดเจน ทั้งนี้ศาลปกครองสูงสุด ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ควรร่วมฟื้นฟูและรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากกว่า ถือว่า ใช้เวลา 1 ปีสามารถรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างได้ ย่อมส่งผลให้ผู้กระทำผิดอื่นๆ มักสร้างรีสอร์ทในเขตป่า(ผิดกฎหมาย) แต่อาศัยช่องว่างของกฎหมาย ต่อสู้คดีจนถึงที่สุด ซึ่งบางคดีใช้เวลาหลายปี และกว่าที่เจ้าหน้าที่จะรื้อรีสอร์ท ก็สามารถทำกำไรเกินคุ้ม มั่นใจว่า การรื้อรีสอร์ทในเขตป่าที่ผิดกฎหมายวันนี้ จะทำให้สถานการณ์บุกรุกสร้างรีสอร์ททั่วประเทศน้อยลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายผ้า แซ่หว้า ราษฎร หมู่ที่ 10 อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก บุกรุกสร้างรีสอร์ท 10 หลังบนป่าในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า บริเวณทางขึ้น"ภูลมโล" จำนวน 8 ไร่ 78 ตารางวา ซึ่งไม่ใช่พื้นที่กันออกของกรมอุทยานฯ กระทั่ง 26 มกราคม 2560 ถูกจนท.จับกุม แต่ต่อสู้ในชั้นศาล กระทั่งแพ้รัฐ ต่อมา หน.อุทยานฯภูหิน ปิดประกาศ ให้นายผ้า แซ่หว้า รื้อถอน"ฮ่องก๋ารีสอร์ทโฮมสเตย์" ภายใน 7 สิงหาคม 2561 แต่ หากไม่ดำเนินการ รัฐจะรื้อถอน โดยมีค่าใช้จ่าย 338,200 บาท แต่เจ้าของเพิกเฉย จนท.บังคับใช้กฎหมาย ตามมาตรา 22 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ถือว่า เป็นไปตามนโยบายรมว.ทรัพย์ฯ ให้ตรวจยึดจับกุมนายทุน แต่จะผ่อนผันผู้ยากไร้ตามคำสั่งคสช.ที่ 66/57
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ้านใหม่ร่องกล้า หมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ม. 10 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใจกลางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ในอดีต หลังจากยุติการต่อสู่ทางความคิดระหว่างจนท.รัฐและพรรคคอมมิวนิวส์ ได้กันแนวเขตให้ราษฏรชาวไทยภูเขาเผ่าม้งทำกิน มีเนื้อที่ประมาณ 6,000 ไร่ โดยส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพเกษตร โดยเฉพาะกระหล่ำปลี แต่ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หลังจากเริ่มปลูกต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย ที่ภูลมโล ซึ่งมีเส้นทางขึ้นที่บ้านใหม่ร่องกล้า ทำให้บ้านใหม่ร่องกล้า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมดอกซากุระเมืองไทยวันละหลายพันคน และช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีการทำโฮมสเตย์ในตัวหมู่บ้าน และ เริ่มมีการสร้างที่พักโฮมเสตย์ตามพื้นที่รอบนอกอีกจำนวนหลายแห่งที่เป็นพื้นที่การเกษตรเดิม ซึ่งหลายฝ่ายกำลังเฝ้าระวังและจับตามองเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบภูทับเบิก