
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพัก2ชั้นเลขที่170ม.3ต.คูขาด อ.คง จ.นครราชสีมา ของนางพรพรรณ จันทราโฮม มีเพลิงกำลังลุกไหม้บริเวณบ้านด้านหลังซึ่งได้ต่อเติมเป็นห้องครัว ซึ่งขณะนั้นมีลมพัดแรงทำให้เพลิงได้ลุกลามไปไหม้บ้านของนายประเสริฐ กราวนอก ซึ่งปลูกติดกันได้รับความเสียหายอีกหนึ่งหลัง เมื่อรถดับเพลิงเดินทางมาถึงพร้อมกันให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าตัดไปบริเวณจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงระดมฉีดน้ำเพื่อดับไฟ ใช้เวลากว่า1ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่าบ้านของนางพรพรรณได้รับความเสียหายบริเวณส่วนที่ต่อเติมเป็นห้องครัว ยุ้งฉางเก็บข้าวเปลือก คอกวัว ส่วนบ้านของนายประเสริฐได้รับความเสียหายทั้งหลัง
จากการสอบถามนายมานะ สมีเมือง ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุเปิดเผยว่า ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาบ้านที่เกิดเหตุ จึงได้เข้าทำการช่วยเหลือแต่เนื่องจากเห็นว่ามีไฟพุ่งออกมาจากถังแก๊ส เกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงได้รีบให้ทุกคนออกจากจุดเกิดเหตุก่อน แล้วโทรศัพท์ประสานขอความช่วยเหลือ
ซึ่งสอดคล้องกับนางพรพรรณ เจ้าของบ้าน ที่เล่าให้ฟังว่า ในระหว่างประกอบอาหารแก๊สหุงต้มได้หมดซึ่งได้ไปซื้อแก๊สมาเปลี่ยนในระหว่างนั้นก็จุดเตาถ่านใช้งานไปก่อนชั่วคราวหลังจากได้แก๊สมาแล้วก็เปลี่ยนกันเอง ด้วยความที่ไม่เคยเปลี่ยนแก๊สมาก่อนทำให้หมุนหัวแก๊สไม่แน่น เมื่อเปิดวาล์วแก๊สทำให้มีแก๊สรั่วออกมา เมื่อแก๊สไปถูกกับไฟที่เตาถ่านทำให้เกิดการลุกไหม้ขึ้นมาหลังจากนั้นก็ทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากที่บ้านมีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น จึงได้ตะโกนขอความช่วยเหลือแต่ไฟก็ลุกไหม้อย่างรวดเร็วทำให้ไม่สามารถดับด้วยตัวเองได้ แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยอยากฝากให้ทุกคนถ้าต้องมีสติถ้าเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น และถ้ามีการฝึกซ้อมดับเพลิงมาก่อนเหตุเช่นนี้จะไม่ลุกลามบานปลายหลักการง่ายๆ ถ้าเกิดเหตุไฟไหม้บริเวณหัวแก๊ส ให้ใช้ผ้าชุบน้ำคลุมหรือถ้ามีสติก็เดินเข้าไปปิดวาล์วแก๊สไฟก็จะดับไปเอง ซึ่งหลายคนเกรงว่าแก๊สอาจจะระเบิดจึงไม่กล้าเข้าไปปิด ทั้งที่ในความจริงแล้วระบบของถังแก๊สได้ถูกออกแบบมาถ้าเปิดวาล์วเอาไว้แก๊สจะไม่ระเบิดโดยง่าย.