
ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้( วันที่ 24 กรกฎาคม 2561) ณ ที่ลาน The Chang Knowledge ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายพรพจน์ บัณฑิตยานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประธานแถลงข่าว, นายสมโรจน์ คูกิตติเกษม อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุรินทร์ และประธานชมรมวัฒนธรรมคนกับช้าง จังหวัดสุรินทร์ เป็นแม่งาน, พร้อมด้วย นายเกษมศักดิ์ แสนโภชน์ อดีต ผวจ.สุรินทร์ , อ.สุดใจ สะอาดยิ่ง ปธ.สภาวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ เขียนบท, นายคธาศักดิ์ โสวภาค, ผู้กำกับการแสดง, ดร.สำเนา เจ้าของสถานี่ , และ ดร.อัชราพร สุขทอง, ได้ร่วมกันแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนในการจัดแสดงแสงสีเสียง เรื่อง "ตำนานพระหมอเฒ่า" วิถีชีวิตคนกับช้าง
ในวาระได้นำมาแสดงเป็นละครประกอบแสงสีเสียง ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า "ชาวกูย" ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองสุรินทร์ ที่อาศัยในแถบนี้ มีอารยธรรม ประเพณีที่เกี่ยวกับการคล้องช้างมานาน จนสืบทอดมรดกอันสำคัญเกี่ยวกับช้าง และวัฒนธรรมคนเลี้ยงช้าง จนเรียกได้ว่า เป็น "คชศาสตร์จังหวัดสุรินทร์" ที่ไม่มีในที่ใดๆของประเทศไทย
และชมรมสืบสานวัฒนธรรม "คนกับช้าง"สุรินทร์ ได้นำมาเสนอให้ชาวสุรินทร์ และชาวไทย ชาวต่างชาติ ได้ชมในครั้งนี้ จึงเป็นเรื่องราวที่ดี และน่าสนใจ เพราะจะมีขนบประเพณีบางอย่างของ "ชาวช้าง" ได้สูญหายไป ซึ่งจะได้รับการฟื้นฟูให้ผู้ชมได้เห็นพิธีกรรมโบราณหลายอย่าง จากการที่ละครเรื่องนี้ได้แสดงมาแล้วครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539
โดย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์(มรภ.สุรินทร์) และได้แสดงต่อมา ปี พ.ศ. 2544 โดยนำมาแสดงต้อนรับคณะรัฐมนตรีสัญจร ซึ่งในครั้งนี้ก็ห่างกัน 17 กว่าปี จึงนับว่าการแสดงนี้เป็นประวัติศาสตร์ของจังหวัดสุรินทร์ สืบต่อเรื่องราวให้สืบเนื่องต่อไป การแสดงละครประกอบแสงสีเสียงในครั้งนี้ จึงเป็นการแสดงที่มีการปรับปรุงงานด้านต่างๆให้ดียิ่งขึ้น
จึงขอเชิญชวนทุกท่าน ให้มาชมและร่วมกันจดจำประวัติศาสตร์การแสดงครั้งนี้ เพื่อลูกหลานเยาวชนของจังหวัดสุรินทร์จะได้ร่วมกันอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมของ "ชาวกูยเลี้ยงช้าง" และ "ช้างเลี้ยง" จังหวัดสุรินทร์ ให้มีคุณภาพต่อไป คู่กับจังหวัดสุรินทร์
งานนี้จะจัดขึ้น ณ ที่บริเวณ ลานพระหมอเฒ่า ในมหาวิทยาลัยเท็คโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 28- 30 ก.ค.2561 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ชมฟรี เพื่อสดุดีเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชการที่ 10
ขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ มาเที่ยว พร้อมชื่นชมการแสดงครั้งนี้ ชมฟรี และการจัดงานในครั้งนี้ไม่ได้ใช้งบประมาณจากทางราชการแต่อย่างได แต่เป็นการร่วมมือเสียสละทั้งแรงกายแรงใจ และงบประมาณจากภาคเอกชนสร้างสรรค์สังคมสุรินทร์