svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

Unseen เมืองไทย!! ทำบุญ สักการะ ไหว้พระ 5,000 องค์ ลงถ้ำศรีธน

สัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา ทำบุญ สักการะ ไหว้พระ 5,000 องค์ ลงถ้ำ เวียนเทียน Unseen ความงามของธรรมชาติที่อยากบอกเล่า " ถ้ำศรีธน " ใหญ่กว้างขวาง สถานที่ปฏิบัติธรรมของพระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนาหลายรูปในอดีต

สัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา ทำบุญ สักการะ ไหว้พระ 5,000 องค์ ลงถ้ำ เวียนเทียน Unseen ความงามของธรรมชาติที่อยากบอกเล่า ถ้ำศรีธน ใหญ่กว้างขวาง สถานที่ปฏิบัติธรรมของพระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนาหลายรูปในอดีต แม้ว่า กระแสของการเข้าถ้ำที่ผ่านมา ของ 13 นักเตะทีมหมู่ป่าอะคาเดมี่ ในพื้นที่ของถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย สร้างความสนใจให้ผู้คนทั่วทั้งแผ่นดินก็ว่าได้ แต่ในพื้นที่ของภาคอีสานก็มีถ้ำงามที่อยากจะบอกเล่าและเชิญชวนนักท่องเที่ยวไปสัมผัส พร้อมกราบสักการะพระพุทธรูป 5,000 องค์ ในช่วงสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา ที่กำลังจะมาถึงนี้ ที่ ถ้ำศรีธน อยู่ภายในวัดถ้ำผาน้ำลอด บ้านโชคชัย ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู


สำหรับ ถ้ำศรี พึ่งเปิดตัวให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปสัมผัสอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2561 ที่ผ่านมานี้เอง หลังจากที่ ทางพระสงฆ์แห่งวัดถ้ำผาน้ำลอด ร่วมกับชาวบ้านโชคชัย ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ได้ช่วยกันพัฒนาถ้ำแห่งนี้ ให้มีความสะดวกต่อการขึ้นชมได้อย่างสะดวกและปลอดภัย กันมาเงียบๆ อยู่เป็นเวลานาน


จนวันนี้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีในระดับหนึ่ง ด้วยการนำของ หลวงปู่วัดถ้ำผาโขง หรือหลวงปู่เที่ยง ถิรสังโร เจ้าอาวาสวัดถ้ำผาโขง ซึ่งเป็นอีกวัดหลักที่อยู่ติดเส้นทาง ถนนลาดยาง สายบ้านโคก-บ้านท่าลี่ ส่วนถ้ำศรีธน นั้นจะต้องเข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร


สำหรับถ้ำศรีธน ซึ่งจากการที่ นส.ชนาธิป ไชยานุกิจ นักโบราณคดีชำนาญการ และคณะ สำนักศิลปากรที่ 9 ขอนแก่น สำรวจถ้ำแห่งนี้ พบว่า อยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือของถ้ำน้ำลอด ประมาณ 250 เมตร ปากถ้ำหันไปทางทิศตะวันตก สูงจากพื้นดินประมาณ 10 เมตร มีลักษณะเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ เชื่อมต่อไปยังถ้ำอื่นๆ ซึ่งช่วงปากถ้ำต้องเดินลึกเข้าไปประมาณ 2-3 เมตร


Unseen เมืองไทย!! ทำบุญ สักการะ ไหว้พระ 5,000 องค์ ลงถ้ำศรีธน




สามารถเชื่อมต่อเข้าไปถึงด้านใน ซึ่งบางช่วงมีแสงสว่างส่องถึงและระบายอากาศได้ค่อนข้างดี บนพื้นถ้ำทั่วไปมี มูลค้างคาวอยู่บนพื้นและก้อนหิน ปูน พบเศษภาชนะดินเผาแบบเนื้อดินธรรมดา และแบบเนื้อแกร่ง อยู่บนพื้นด้านใน ซึ่งเศษภาชนะดินเผาเนื้อดินธรรมดามีทั้งสีส้มและสีเทา เนื้อดินค่อนข้างหยาบและมีเม็ดกรวดผสมอยู่ ผิวภาชนะ มีทั้งผิวเรียบและแบบไม่ตกแต่ง และเป็นแบบตกแต่งลายทาบเชือกเส้นใหญ่ ถ้ำศรีธนอยู่ในเขาผาน้ำลอด นั้นน่าจะมีการใช้พื้นที่ทำกิจกรรมของมนุษย์อย่างน้อยสองสมัย คือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ กับ สมัยวัฒนธรรมล้านช้าง เนื่องจากได้พบเศษภาชนะดินเผาเนื้อดินธรรมดา แบบสมัยก่อนประวัติศาสตร์อยู่ประปนกับเศษภาชนะดินเผาเนื้อแกร่ง แบบของวัฒนธรรมล้านช้าง แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เป็นการใช้พื้นที่อย่างต่อเนื่องกัน เนื่องจากทั้งสองสมัยนี้ มีช่วงระยะเวลาที่ห่างกันมาก


ส่วนประวัติของถ้ำแห่งนี้ นายสุโท บุตรศรี อายุ 64 ปี ชาวตำบลบ้านโคก อ.สุวรรณคูหา ที่มาคอยดูแลอำนวยความสะดวกคนเดินทางท่องเที่ยวเล่าว่า เมื่อประมาณ ต้นปี พ.ศ. 2500 มีชาวบ้านคนหนึ่งชื่อ สีธน อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน โชคชัย เป็นหมู่บ้านกับถ้ำแห่งนี้ มาขุดเอาขี้ค้างคาว เพื่อไปทำปุ๋ยปลูกผักเหมือนที่ชาวบ้านคนอื่นๆ และ ได้ขุดพบสมบัติทองคำอยู่บนก้อนหิน จึงกลับไปขุดเอาสมบัติ จนกระทั่งก้อนหิน นั้นทับเสียชีวิต ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวบ้านจึงเรียกถ้ำแห่งนี้ ว่า ถ้ำสีธน


ต่อมาปี พ.ศ. 2536 เป็นต้นมา สถานที่แห่งนี้ได้พัฒนาให้เป็นที่พักสงฆ์เพื่อพักภาวนาบำเพ็ญสมณธรรม สถานที่ๆ ให้ความเมตตาแก่สัพพสัตว์ และให้สัตว์ป่าน้อยใหญ่อาศัยพึงพิง ได้รับความปลอดภัยร่มเย็น จากร่มธรรม ของพระป่า พระธุดงคกรรมฐานที่แวะมาพักภาวนาอยู่อย่างไม่ขาดสาย หากเราเดินทางจากตัวจังหวัดหนองบัวลำภู จะเดินทางตามเส้นทาง หนองบัวลำภู-นากลาง หมายเลข 210 ถึงสามแยกจุดบริการประชาชน บ้านนาคำไฮ อ.เมืองหนองบัวลำภู เลี้ยวขวาไปยังเขตเทศบาลตำบลกุดดินจี่ อ.นากลาง ตามเส้นทาง สาย 2097


จากนั้นมุ่งหน้าไปยังเขตเทศบาลตำบลบ้านโคก อ.สุวรรณคูหา ตามเส้นทาง นภ.40004 จึงเดินทางต่อจากเทศบาลบ้านโคก ไปตามเส้นทางบ้านโคก-ไป บ้านท่าลี่ อำเภอน้ำโสม จ.อุดรธานี ไปประมาณ 6 กิโลเมตร ก็จะผ่านหมู่บ้านโชคชัย ไป ประมาณ 1 กิโลเมตรก่อนที่จะถึงวัดถ้ำผาโขง ที่มองเห็นวัดและฐานที่กำลังจะก่อสร้างพระพุทธรูปบนยอดเขาที่สูง จะมีป้ายบอกอยู่ฝั่งซ้ายมือ ไปยัง ถ้ำศรีธน


Unseen เมืองไทย!! ทำบุญ สักการะ ไหว้พระ 5,000 องค์ ลงถ้ำศรีธน




จากนั้นจะเป็นเส้นทางไปตามถนนลูกรังที่ไม่ใหญ่เท่าไรนักแต่ก็พอที่จะทำให้รถขนาดเก๋ง ปิคอัพสวนทางกันได้สบายอยู่ ตามเส้นทางไปยังถ้ำจะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ ประมาณ 1 กิโลเมตรก็เลี้ยวขวาตามป้ายเข้าสู่เขตที่พักสงฆ์ถ้ำน้ำลอด ซึ่งบริเวณที่พักสงฆ์นี้ ได้มี ทางญาติโยมชาวบ้านที่มาทำบุญและช่วยทางวัดดูแล นักท่องเที่ยวต่างถิ่น เพื่อคอยแนะนำเส้นทางในการขึ้นสู่ถ้ำ บริเวณหน้าทางเข้าถ้ำ จะมีบันไดเหล็กให้เดินขึ้นได้อย่างสะดวก ประมาณ 10 กว่า เมตร ก็ถึง ประตูเข้าสู่ปากถ้ำแล้ว แม้ว่าปากถ้ำจะแลดูไม่ใหญ่ แต่ความกว้างก็น่าจะราวร่วมเมตร


ส่วนความสูงนั้นหลายวาทำให้เดินผ่านซอกหินเข้าไปได้อย่างสะดวก พอผ่านประตูปากถ้ำ สองขายังไม่ทันที่จะก้าวลงไปสัมผัสพื้นล่าง สายตาก็แลเห็น พระพุทธรูปที่ถูกจัดเรียงรายอยู่ภายในห้องโถงของถ้ำด้านล่างจำนวนมากสร้างความตื่นตาตื่นใจจากแสงสีทองของพระพุทธรูปที่อยู่รายรอบถ้ำเสมือนแสงสีของธรรมะได้สาดส่องให้ความเมตตามายายังผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง สำหรับถ้ำศรีธน แห่งนี้ พื้นถ้ำด้านล่างที่ดูเป็นเสมือนห้องโถงขนาดใหญ่ กว้างขวาง รอบบริเวณห้องโถงถ้ำที่กว้างใหญ่นี้ จะมีพระพุทธรูปจำนวนมากที่ถูกจัดไว้เรียงรายอย่างเป็นระเบียบบนชั้นที่ยาวและถูกปรับไปตามสภาพของถ้ำ 


ส่วนตรงไหนที่ไม่สามารถทำที่ชั้นได้ ก็จะนำไปประดิษฐานไว้ตามบนก้อนหิน ซอกหินหลืบหินผา ทำให้ภายในถ้ำเต็มไปด้วย พระพุทธรูปปางต่างๆ ขนาดหน้าตักต่างๆ มีหลากหลายขนาดจะถูกจัดเรียงไว้ หรือ นำขึ้นไว้ตามมุมซอกหลืบของหิน จนทำให้รู้สึกเหมือนถึงว่า ได้เดินท่องอยู่ในเส้นทางธรรมะกับธรรมชาติที่รู้สึกอิ่มบุญและธรรมชาติไปด้วยกันอย่างอิ่มเอมใจ


ทั้งยังมีก้อนหินเสี่ยงทาย สำหรับผู้ที่อยากจะรับรู้ว่าโชควาสนาเป็นเช่นไร ถ้ำแห่งนี้มีร่องรอย อารยะธรรมโบราณ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมปลีกวิเวกของพระสายวิปัสสนาของพระอรหันต์ภาคอีสานอีกหลายรูป เช่นในสายของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ได้มาอาศัยความเงียบสงบร่มเย็นเป็นสายธารสะพานบุญ ส่วนผนังถ้ำแห่งนี้ จากการสัมผัสด้วยสายตานั้น จะมีลักษณะเป็นหินสีขาวขุ่นคล้ายกับลักษณะของหินอ่อน ที่มีความราบเรียบสวยงามโค้งเว้าไปตามแต่จินตนาการของผู้ดูให้ความหลากหลายทางสุนทรียภาพทางอารมณ์ แม้เพียงสัมผัสจุดเริ่มต้นก็รู้สึกประทับใจแล้ว


ทั้งความงามที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ปั้นแต่งไว้ให้ได้ชื่นชม ความงามของถ้ำแห่งนี้ ปกติในการเดินเข้าถ้ำจะทำให้รู้สึกอึดอัดหายใจไม่สะดวก มีกลิ่นเหม็นอับชื้น แต่ถ้ำแห่งนี้ไม่มีความรู้สึกที่ว่าเลย เมื่อเข้าเดินอยู่ข้างในรู้สึกว่าอากาศจะเย็นสบายโล่งหายใจก็สะดวก จากห้องโถงใหญ่แห่งแรก ก็ยังมีทางเดินไปตามโพรงใหญ่ที่กว้างขวาง ก็ยังมีพระพุทธรูปที่ถูกจัดเรียงรายเต็มไปตลอดเส้นทาง


นายสุโท บุตรศรี ที่เฝ้ารักษาถ้ำแห่งนี้ ได้บอกเล่าว่า พระพุทธรูปเหล่านี้ หลวงพ่อหรือหลวงปู่เที่ยง ถิรสังโร แห่งวัดถ้ำผาโขงที่ได้ดูแลถ้ำแห่งนี้ เมื่อถูกกิจนิมนต์ให้ไปในกรุงเทพฯ ก็จะนำเอาพระพุทธรูปขึ้นมาด้วย ครั้งละ 2-3 คันรถ อยู่เป็นประจำ ซึ่งคาดว่าน่าจะเกินกว่า 5,000 องค์อีกด้วย หลวงพ่อท่านบอกว่า ถ้ำแห่งนี้มีความเหมาะสมที่จะนำพระพุทธรูปมาไว้ให้กับพุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้สักการระบูชา


พระครูบากึ๋ม ชยวังโส พระวัดถ้ำน้ำลอด เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาในเทศกาลเข้าพรรษา ตั้งแต่วันที่ 25-28 กรกฎาคม 2561 นี้ ทางวัดได้จัดทำพิธีทำบุญตักบาตรและเวียนเทียนขึ้น โดย ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2561 นั้นตั้งแต่หกโมงเช้าพระสงฆ์ออกบิณฑบาตหน้าถ้ำศรีธนให้ญาติธรรมร่วมทำบุญตักบาตร จากนั้นจะได้เปิดให้ บูชาผ้าไตร เวียนเทียน ลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แห่ขบวนเทียนเข้าพรรษา ประกวดการฟ้อนรำตลอดริ้วขบวน จนถึงเวลา 10.00 น. นายอำเภอสุวรรณคูหา ประธานในพิธีจะได้ทำพิธีเปิดงาน และนำผู้นำท้องถิ่น ชุมชน ร่วมกันปลูกป่าเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ์ บดินทรเทพยวรางกูล รัชการที่ 10 ส่วนในช่วงเย็นเวลา 19.00 น.จะมีการร่วมกันทำวัตรสวดมนต์ เวียนเทียนภายในถ้ำศรีธน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


ส่วนในวันที่ 26-28 กรกฎาคม 2561 นั้น ซึ่งวันแรกเป็นวันขึ้น 14 ค่ำเดือน 8 วันถัดมาเป็นวัน ขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 หรือวันอาสาฬบูชา และวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 เป็นวันเข้าพรรษา ในทุกวันทางวัดจะเปิดให้มีการบูชาผ้าไตร เวียนเทียนในถ้ำ กันทุกวันจนถึง เวลา 17.00 น. จึงขอเชิญชวน พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาท่องเที่ยวชมความงามของถ้ำใหญ่ที่จุคนได้นับ 1,000 คน นอกจากจะได้ชมความงดงามของประติมากรรมจากธรรมชาติทั้งหินงอก หินย้อย แสงสะท้อนจากประกายหิน เป็นความงามที่ซ่อนตัวอยู่ตามพื้นถ้ำแลเพิงผา แล้ว ยังได้ ร่วมเวียนเทียนภายในถ้ำ กราบพระพุทธรูปภายในถ้ำ ได้ร่วมทำบุญบูชาถวายผ้าไตรในช่วงเทศกาลเข้าพรรษานี้อีกด้วย