svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

(คลิปข่าว) "มหาลัยชายเลนแหว่ง" ส่อซ้ำรอย "หมู่บ้านป่าแหว่ง"

"ล่าความจริง" เปิดรายการกันด้วยประเด็นที่ต่อเนื่องจากเมื่อวาน แต่เวลาหมดเสียก่อน คือประเด็น "มหาวิทยาลัยป่าชายเลนแหว่ง" ซึ่งเป็นประเด็นเกาะติดของ "ล่าความจริง" เรื่องอาคารเรียนของมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ถูกทิ้งร้างเพราะก่อสร้างไม่เสร็จ ทำให้นิสิตนักศึกษาต้องเสียโอกาส ขณะที่รัฐบาลเองก็ต้องสูญเสียงบประมาณจำนวนมหาศาล กลายเป็นหนึ่งในปัญหาธรรมาภิบาลในรั้วอุดมศึกษาไทยที่แก้เท่าไหร่ก็แก้ไม่ตกเสียที ครั้งนี้เราพาคุณผู้ชมลงพื้นที่เมืองหมูย่าง จังหวัดตรัง ที่นั่นมีอาคารเรียนของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ถูกทิ้งร้างมานานร่วม 10 ปี



นี่คืออาคารโรงแรมที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง บนเนื้อที่มากกว่า 20 ไร่ ริมหาดราชมงคล ในตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ไม่ใกล้ไม่ไกลกับสถานที่จัดงานวิวาห์ใต้สมุทร แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก ดูภาพแล้วคุณผู้ชมอาจนึกถึง "หมู่บ้านป่าแหว่ง" ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะภาพมันคล้ายกันมากจริงๆ

โรงแรมแห่งนี้ไม่ใช่ของเอกชนที่ไหน แต่แท้ที่จริงคือ "กลุ่มอาคารปฏิบัติการโรงแรมและการท่องเที่ยว" ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง โดยเป็นส่วนต่อขยายจากโครงการจัดตั้งคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง บนพื้นที่ราว 1,700 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองกะลาเส และป่าคลองไม้ตาย ซึ่งได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้อย่างถูกต้อง ตั้งแต่ปี 2535 โดยทางมหาวิทยาลัยได้มีการก่อสร้างรั้วลวดหนามกำหนดเขตพื้นที่โดยรอบทั้งหมด และพื้นที่ในส่วนแรก 1,700 ไร่นี้ก็ไม่มีปัญหาใดๆ

แต่ปัญหามาเกิดกับการก่อสร้าง "กลุ่มอาคารปฏิบัติการโรงแรมและการท่องเที่ยว" เมื่อปี 2550 โดยผู้บริหารมหาวิทยาลัยในขณะนั้นตั้งเป้าว่า จะให้เป็นแหล่งพัฒนาความรู้และศักยภาพให้กับนักศึกษาด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยว ด้วยการเปิดโรงแรมให้บริการจริง เพื่อให้นักศึกษาได้ทดลองฝึกงาน แต่เหตุการณ์กลับพลิกผัน เพราะในอีก 2 ปีต่อมา คือปี 2552 หน่วยคุ้มครองป้องกันป่าชายเลนที่ 8 ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างอาคารโรงแรม และยึดสิ่งปลูกสร้างเอาไว้ทั้งหมด ห้ามก่อสร้างต่อ เนื่องจากมีหลักฐานว่าพื้นที่นี้ ซึ่งมีขนาด 21 ไร่ 3 งาน 59 ตารางวา อยู่ในเขตป่าชายเลนในความดูแลของกรมทรัพยากรทางทะเลแลชายฝั่ง ทั้งยังอยู่นอกเขตพื้นที่ป่าที่ทางมหาวิทยาลัยได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้ก่อสร้างคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมงด้วย

เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ ก็เลยเกิดปัญหาขึ้นมาโครงการเดินหน้าต่อไม่ได้ มีการแจ้งความดำเนินคดีอาญากับอดีตอธิการบดีและพวก แม้สุดท้ายอัยการจะมีคำสั่ง "ไม่ฟ้องคดี" เพราะเชื่อว่าอดีตอธิการบดีไม่มีเจตนาบุกรุกที่ป่าก็ตาม แต่ก็ยังมีประเด็นในส่วนของการชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งที่ยังคงค้างคาอยู่ โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เรียกค่าเสียหายจากการก่อสร้างที่ไปทำลายธรรมชาติ 2 ล้าน 5 แสนบาท ขณะที่ทางมหาวิทยาลัยฯเอง ก็มีคำสั่งให้อดีตอธิการบดีชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีทำให้สูญเสียงบประมาณการก่อสร้าง เพราะเบิกจ่ายไปแล้ว 64 ล้านบาท จาก 125 ล้านบาท แต่การดำเนินการในส่วนนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นกัน แม้ผู้ตรวจการแผ่นดินจะลงพื้นที่ไปเร่งรัด เนื่องจากอดีตอธิการบดีไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ขอมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ยังไม่ต้องจ่ายค่าสินไหม ทำให้เรื่องราวยังไม่เห็นแววได้ข้อยุติ

เมื่อคดียังคาอยู่แบบนี้ อาคารโรงแรมก็ถูกทิ้งร้าง กลายเป็นอนุสาวรีย์ป่าชายเลนแหว่งที่จังหวัดตรัง คุณอนุรักษ์ เพ็ญสวัสดิ์ ทีมล่าความจริง พาลงพื้นที่จริงเพื่อพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง กับปัญหาอาคารร้างที่ยังไร้ทางออกหลังนี้