
ประเด็นนี้ "ล่าความจริง" นำเสนอต่อเนื่องมาแล้วหลายตอน เริ่มจากอาคารเรียนของมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ก่อสร้างมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เสร็จ เลิกจ้างผู้รับเหมาไปแล้ว 2 บริษัท มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกันวุ่นวาย แม้คดีกับผู้รับเหมาคนแรก มหาวิทยาลัยจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คดีจะถึงที่สุด และต้องรออีกนานแค่ไหนจึงจะใช้อาคารได้เสียที
นอกจากนั้น ยังมีการก่อสร้างอาคาร 2 หลังของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี คลอง 6 จังหวัดปทุมธานี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ศูนย์รังสิต ซึ่งก่อสร้างมานานร่วม 10 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เสร็จเช่นกัน ล่าสุดที่เราเพิ่งนำเสนอไปก็คือ การก่อสร้างอาคาร 2 หลัง มูลค่ารวมๆ กว่า 1 พันล้านบาท ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ หรือชื่อเดิมคือ "เทคนิคกรุงเทพ" ซึ่งสร้างมาหลายปี แต่ก็ยังเปิดใช้งานไม่ได้ มีปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน คำถามก็คือ การก่อสร้างอาคารที่ใช้เวลานานเป็นสิบปี และมีสภาพถูกปล่อยทิ้งร้าง จะมีผลกระทบต่อโครงสร้างของอาคารหรือไม่ และหากเปิดใช้อาคารจริงๆ จะมีอันตรายด้วยหรือเปล่า เรื่องนี้ก็น่าคิดเหมือนกันนะ
"ล่าความจริง" ได้สอบถามเรื่องนี้ กับคุณธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คุณธเนศ บอกว่า ความล่าช้าในการก่อสร้างมีหลายรูปแบบและหลายสาเหตุ เช่น ข้อตกลงของแบบก่อสร้างที่ไม่ชัดเจน หรือระหว่างก่อสร้างมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแบบแปลน เป็นต้น
แต่ที่แน่ๆ ก็คือ อาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จ และถูกปล่อยทิ้งร้างไว้เป็นเวลานานๆ วัสดุย่อมเสื่อมสภาพ ทั้งโครงเหล็กหรือแม้แต่ตัวคอนกรีตที่ใช้ในการก่อสร้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เมื่อสร้างแล้วถูกปล่อยทิ้งร้าง จะทำให้อาคารนั้นๆ ไม่สามารถก่อสร้างต่อไปได้ ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาตัวอาคารหลังจากถูกปล่อยทิ้ง
ข้อเสนอของนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ก็คือ ควรมีกฎระเบียบออกมาบังคับเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารที่ไม่แล้วเสร็จ และมีเวทีให้ฝ่ายผู้จ้าง เช่น มหาวิทยาลัย กับผู้รับเหมา ได้พูดคุยหาทางออกร่วมกัน ไม่ใช่โยนความผิดให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรับผิดชอบแต่เพียงฝ่ายเดียว
เรื่องตึกร้างในสถาบันอุดมศึกษายังไม่จบ พรุ่งนี้เราจะไป "ล่าความจริง" กันต่อ ไปฟังมุมมองของฝ่ายผู้รับเหมากันบ้างว่าเหตุใดถึงก่อสร้างอาคารไม่แล้วเสร็จ เพราะผู้รับเหมาหลายราย ถูกปรับถูกฟ้องจนล้มละลายไปก็มี