
นายสุรศักดิ์เจริญศิริโชติผู้ว่าราชการจังหวัดระยองพร้อมด้วยนายศุภวิทย์เปี่ยมพงศ์สานต์ประธานมูลนิธิเสวตโสภานายพนัสแก้วลายอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีและนายสาธิตปิตุเตชะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีต ส.ส.ระยองร่วมทำพิธีเปิดสวนพฤกษชาติโสภาและพิพิธภัณฑ์เรือนไทยตั้งอยู่ที่ 280 หมู่ 3 ตำบลบ้านเพอำเภอเมืองระยองจังหวัดระยองเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่เป็นทางเลือกให้แก่นักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศพิพิธภัณฑ์เรือนไทยและพรรณไม้นานาชนิด
นายศุภวิทย์เปี่ยมพงศ์สานต์ประธานมูลนิธิเสวตโสภากล่าวถึงความเป็นมาว่าสวนพฤกษชาติโสภามูลนิธิเสวต- โสภาจัดสร้างโดยนายเสวต -นางโสภา เปี่ยมพงศ์สานต์คุณพ่อและคุณแม่มีเนื้อที่ 28 ไร่มีการจัดเป็นสวนพรรณไม้หลากหลายชนิด ประกอบด้วย ไม้เบญจพรรณ ไม้ในวรรณคดี ไม้เลื้อยไม้หอม ฯลฯกว่า 1,000 ชนิดมีเรือนไทยโบราณ อายุร่วม 140 ปี จำนวน 4หลัง จัดแสดงเครื่องลายครามของไทยสมัยต่างๆ ย้อนหลังกว่า 1,000 ปี แยกเป็น เรือนไทยแสดงเครื่องประดับเรือนเรือนไทยพร้อมเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันเรือนไทยไทยแสดงเครื่องถ้วยเบญจรงค์และเครื่องปั้นดินเผาสมัยสุโขทัยและ เรือนไทยแสดงเครื่องปั้นดินเผาสมัยบ้านเชียง
จัดสร้างโดยนายเสวต -นางโสภา เปี่ยมพงศ์สานต์คุณพ่อและคุณแม่ซึ่งมีความปรารถนาจะให้เป็นแหล่งของนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจมาท่องเที่ยวศึกษาหาความรู้จึงได้มอบให้มูลนิธิเสวตโสภาและได้เปิดเป็นสวนสาธารณะครั้งแรกเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2523 ต่อมาเมื่อท่านทั้ง 2 ได้เสียชีวิตได้มีการปิดปรับปรุงและได้รับการฟื้นฟูบูรณาการขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเร็วๆ นี้
ด้วยแรงบันดาลใจที่ปรารถนาให้สวนแห่งนี้เป็นที่ทัศนศึกษาแก่ผู้มาเยือนเพื่อสัมผัสธรรมชาติและได้เรียนรู้ถึงวิถีชีวิตของชาวไทยเป็นการอนุรักษ์สถานที่นี้ให้เป็นมรดกตกทอดแก่ลูกหลานสืบไปทางมูลนิธิจึงได้สร้างอนุสาวรีย์ให้ท่านทั้งสองขึ้นภายในสวนพฤกษชาติโสภาเพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณความดีที่ท่านทั้งสองได้จัดสร้างสวนแห่งนี้และได้ทำพิธีเปิดในวันนี้โดยได้รับเกียรติจากผู้ว่าราชการจังหวัดระยองและอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีและแขกผู้มีเกียรติหลายท่านด้วยกัน
ด้านนายสุรศักดิ์เจริญศิริโชติผู้ว่าราชการจังหวัดระยองกล่าวเพิ่มเติมว่าการที่ได้มีสวนพฤกษชาติโสภาในพื้นที่นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับพี่น้องชาวระยองที่จะได้ศึกษาและสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดเป็นพื้นที่สีเขียวและยังเป็นสถานที่ในการศึกษาวัตถุโบราณและศิลปหัตถกรรมอันล้ำค่าและเป็นปอดแห่งใหม่นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่ควรให้สนใจ