
บ้านเกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวซึ่งอยู่ห่างจากถนนสายเอเชีย 41 ประมาณ 2 กม. ภายในห้องนอนพบศพ น.ส.ธนพร ราชโยธา อายุ 44 ปี สภาพนอนหงายอยู่กับพื้นห้องสวมเสื้อยืดสีฟ้านุ่งกางเกงสามส่วนสีขาว เสียชีวิตด้วยการผูกคอกับขื่อหลังคากลางห้องนอนด้วยผ้าขาวม้า ซึ่งญาติได้นำร่างลงมาก่อนหน้านี้แล้ว
จากการสอบถาม นางมาลี ราชโยธา แม่ผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนสังเกตเห็นว่า น.ส.ธนพรฯผู้เสียชีวิต จากที่เคยเป็นคนพูดคุยสนุกสนานร่าเริง กลับมีอาการซึมเศร้าไม่ค่อยพูดจากับใครผิดสังเกตุ จึงได้ชวนลูกสาวอีกคนคือ น.ส.กนกพร ราชโยธา ซึ่งเป็นลูกสาวคนสุดท้องมีอาชีพเป็นพิธีกรดีเจชื่อดังของจังหวัดชุมพรและเป็นเจ้าของธุรกิจ "แก่งสวนน้ำ" พาพี่สาวที่มีอาการซึมเศร้าไปหาร่างทรง "หลวงปู่ดำ" ตำหนักตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองชุมพร โดยที่ร่างทรงหลวงปู่ดำทักว่าลูกสาวคือ น.ส.ธนพรฯอายุย่างเข้า 44 ปี กำลังมีเคราะห์ถึงชะตาขาดให้รีบไปสะเดาะเคราะห์ต่อดวงชะตาเป็นการด่วน ซึ่งตนเมื่อฟังอย่างนั้นก็ไม่สบายใจโดยร่างทรงหลวงปู่ดำ บอกอีกว่าอาคารที่ปลูกเป็นร้านอาหารนั้นไปทับที่ ที่มีเจ้าที่แรงให้กลับไปรื้อและย้ายอยู่ใหม่แต่ในพื้นที่ดินเดียวกัน
หลังจากนั้นก็พากันกลับมาถึงบ้านพักที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ใกล้กับร้านอาหาร "แก่งสวนน้ำ"และเป็นจุดท่องเที่ยวพักผ่อนริมแอ่งน้ำตก เพียง 100 เมตรเท่านั้นน.ส.ธนพรฯก็เอาผ้าไปตากที่ราว ส่วนนางมาลีผู้เป็นแม่ได้เดินไปที่บ้านอีกหลังเพื่อเตรียมหุงหาอาหารสำหรับมื้อเช้า พอเดินกลับมาเรียก น.ส.ธนพรฯ ให้ไปกินข้าวพบว่าผูกคอเสียชีวิตแล้ว
ส่วนน.ส.กนกพรฯ น้องสาว ขณะกำลังเป็นพิธีกรอยู่ในงานแต่งงานแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอหลังสวน หลังทราบว่าพี่สาวผูกคอเสียชีวิตจึงรีบเดินทางกลับมาที่โรงพยาบาลสวีเพื่อดูศพพี่สาว พร้อมร่ำให้อย่างโศกเศร้าเสียใจ และเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ร่างทรงทักถึงดวงชะตาของพี่สาวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะกำลังจะพี่สาวไปให้พระที่วัดแห่งหนึ่งในตำบลครน อำเภอสวี สะเดาะเคราะห์ต่อดวงชะตาในวันจันทร์ตรงกับวันเกิดที่จะถึงนี้ แต่พี่สาวกลับมาคิดสั้นก่อน