
ที่วัดไผ่ท่าโพเหนือ ตำบลไผ่ท่าโพ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ได้มีการเผาข้าวหลามแบบใช้การอบแทนการเผาแบบเดิมที่มีวิธีและขั้นตอนที่ยุ่งยาก โดยการอบข้าวหลามจะอบด้วยถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ที่ดัดแปลงโดยการตัดออกเป็น 2 ส่วน และทำตะแกรงเหล็กด้านในสำหรับจัดเรียงกระบอกข้าวหลาม ส่วนผสมของข้าวหลามก็เหมือนกับข้าวหลามทั่วไปที่มีส่วนประกอบหลัก ได้แก่ ข้าวเหนียว กะทิ เป็นวัตถุดิบหลัก ต่างที่วิธีการเผา ที่จะใช้การอบแทน
โดยจะจัดเรียงข้าวหลามที่ใส่ส่วนผสมเสร็จแล้วเป็นรูปวงกลมตามแนวของถังจำนวน 25- 30 กระบอก จากนั้นหยอดกะทิเป็นขั้นตอนสุดท้าย นำเตาถ่านใส่บริเวณตรงกลางถังน้ำมัน ปิดส่วนที่เป็นฝาให้สนิท ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ข้าวหลามก็จะสุกได้ที่ พร้อมรับประทาน การเผาแต่ละครั้งทางวัดจะเผาในงานสำคัญภายในอำเภอ และจะเผาเพียง 200 -300 กระบอก โดยวัดจะจำหน่ายให้ผู้สนใจที่จะซื้อเพื่อรับประทาน ในราคากระบอกละ 20-30 บาท ตามขนาดของกระบอก ที่ผ่านมาไม่เพียงพอในการจำหน่าย รายได้ที่ได้จะนำไปใช้ในการพัฒนาวัด
สำหรับการเผาข้าวหลามแบบใช้ถังน้ำมัน นับได้ว่าเป็นสิ่งที่สะดวกและประหยัดกว่าการเผาแบบเดิมที่ต้องใช้สถานที่กว้าง โล่งแจ้ง เนื่องจากจะต้องขุดเป็นรางเพื่อเรียงกระบอกข้าวหลาม และต้องใช้ฟืนเป็นจำนวนมากในการเผา อีกทั้งการเผาแบบเดิมจะเกิดควันไฟเป็นจำนวนมาก ข้าวหลามที่ได้ กระบอกก็จะไม่สะอาดจากการถูกไฟเผา การสุกก็จะไม่เท่ากัน แต่การเผาแบบใช้ถังน้ำมันอบ ใช้สถานที่เพียงเล็กน้อย แค่พอตั้งถังน้ำมันได้ เชื้อเพลิงใช้ถ่านเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอ ไม่เกิดควันไฟ ข้าวหลามที่ได้จะสะอาด สุกเสมอกัน และมีกลิ่นหอมจากการอบ จึงนับได้ว่าการเผาข้าวหลามแบบการอบด้วยถัง เป็นสิ่งที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความสะดวกสบาย ลดมลพิษ และข้าวหลามที่ได้ก็จะมีรสชาติอร่อย
ทั้งนี้ สำหรับแนวคิดการเผาข้าวหลามแบบใช้ถังอบ เป็นแนวคิดของพระครูพิบูลโพธิกิจ เจ้าอาวาสวัดไผ่ท่าโพเหนือ เจ้าคณะตำบลไผ่ท่าโพ ที่ศึกษาเรียนรู้จากโซเชียล ก่อนที่จะนำมาทดลองในวัดเพื่อเป็นตัวอย่างและแนวทางในการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะสามารถนำไปปรับใช้เพื่อเป็นการสร้างรายได้เสริม หรือพัฒนาเป็นอาชีพหลักต่อไปในอนาคต