
ตามฟ้องอัยการโจทก์ เมื่อวันที่ 2 ส.ค.54 บรรยาพฤติการณ์ความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อคืนวันที่ 19 เม.ย.54 จำเลยกับพวกได้ใช้อาวุธปืนสั้นรีวอลเวอร์ ยี่ห้อสมิธ แอนด์ เวสสัน สเปเชียล ขนาด.357 ไม่มีทะเบียน ลูกกระสุนขนาด . 38 ยิง พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม ผกก.สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร ขณะกำลังล้างรถยนต์ตู้บริเวณหน้าบ้านพักเลขที่ 282/67- 68 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ จนถึงแก่ความตาย ก่อนหลบหนีไป ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมจำเลยได้ พร้อมอาวุธปืนของกลาง และให้การรับสารภาพ โดยตลอดว่า รับจ้างจากนายต่าย ไม่ทราบนามสกุล เป็นเงิน 100,000 บาทให้ฆ่าผู้ตาย
สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 3 ก.ค.57 ให้ประหารชีวิต ซึ่งคำให้การของจำเลยเป็นประโชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต และริบอาวุธปืนของกลาง
ต่อมา"จำเลย" ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลลดโทษ ซึ่งคดีได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 28 ก.ค.59 โดยศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ซึ่ง "จำเลย" ได้ยื่นฎีกาอีก ขอให้ศาลฎีกา พิพากษาลดโทษให้บ้าง
โดย "นายสิมู จะหย่อ" จำเลย ถูกคุมขังในเรือนจำมาตลอด วันนี้ศาลก็ได้เบิกตัวจำเลย มาจากเรือนจำกลางบางขวาง โดยมีสีหน้าเรียบเฉยและไม่พูดอะไร
ทั้งนี้ "ศาลฎีกา" ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า จำเลยกระทำการอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้นเหมาะสมกับความผิดแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาฎีกาที่ผลคดีถือเป็นที่สุดให้จำคุกตลอดชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็ได้ควบคุมตัว "นายสิมู จะหย่อ" จำเลย ไปคุมขังยังเรือนจำคลองเปรมเพื่อรับโทษตามคำตัดสินต่อไป