svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เจ้าของทัวร์มรณะ 18 ศพ ประกาศยกเลิกกิจการ

28 มี.ค. 61 - เจ้าของทัวร์มรณะ 18 ศพประกาศยกเลิกกิจการ ขายรถทั้งหมดเนื่องจากหมดกำลังใจและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนไม่สามารถทำธุรกิจต่อได้ ด้านหลวงปู่หนูอินทร์ นำญาติผู้เสียชีวิตเก็บเถ้ากระดูกหลังครบ 3 วัน

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 28 มี.ค. 61 ที่วัดดงกระยอมอุดมคุณ ต.ห้วยโพธิ์ และ วัดป่าพุทธมงคล ต.หลุบ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พระราชศีลโสภิต หรือหลวงปู่หนูอินทร์ เกจิชื่อดังภาคอีสาน นำญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุรถทัวร์มรณะเก็บเถ้ากระดูก ผู้เสียชีวิตทั้งสองแห่งรวม 14 ราย โดยเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ญาติได้ฌาปนกิจบนเชิงตะกอนหรือเผาแบบกองฟอนพร้อมกัน เพื่อความสบายใจ ตามธรรมเนียมความเชื่อโบราณ จึงได้ปล่อยให้เชิงตะกอนดับเอง เพื่อลดอาถรรพ์กรณีตายโหงให้วิญญาณสงบ และเป็นกุศโลบายให้ญาติได้ทำใจก่อนที่จะทำการประกอบพิธีทางศาสนา


บรรยากาศเก็บกระดูกของญาติยังคงอยู่ท่ามกลางความเสียใจ เพราะไม่มีใครต้องการให้เกิดอุบัติเหตุ การเก็บกระดูกหลวงปู่หนูอินทร์ ยังได้พรมน้ำมนต์ แผ่เมตตาให้วิญญาณสงบไปสู่ภพภูมิที่ดีขึ้นขณะที่นายกฤษฎา มะลิซ้อน ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การเอาผิดกับนางทัน เลิศสหพันธ์ บ้านเลขที่ 340 ถ.กุดยางสามัคคี ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เจ้าของกิจการกันเองทัวร์ ก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกทะเบียนรถที่ก่อนเหตุ เนื่องจากใช้งานไม่ได้อีกแล้ว เพิกถอนใบขับขี่ของ นายกฤษณะ จุฑาชื่น คนขับรถ ล่าสุดนางทันติดต่อขอยกเลิกการประกอบธุรกิจทัวร์ หรือยกเลิกการขออนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 61 ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา

เจ้าของทัวร์มรณะ 18 ศพ ประกาศยกเลิกกิจการ




ทั้งนี้รถในบริษัททัวร์ มีจำนวน 3 คัน คือ 1.คันเกิดเหตุ ส่วนคันที่ 2. ได้ขายให้กับบุคคลอื่นไปแล้วและ คันที่ 3. ทราบว่า ได้นำรถทัวร์ไปขายให้กับผู้ประกอบการรายหนึ่งที่จังหวัดนครปฐม เพื่อยุติการประกอบธุรกิจรถทัวร์ เนื่องจากเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นการเลิกกิจการทัวร์ แต่ในด้านการเอาผิดเกี่ยวกับกฎหมายขนส่งนั้น เนื่องจากรถที่เกิดเหตุ ไม่ได้มาตรวจสภาพรถจริงครั้งที่ 2 ตามกฎหมาย เพราะตามกฎหมายรถทัวร์คันดังกล่าวอยู่ในหมวดรถโดยสารสาธารณะไม่จำทางหรือรถเหมาเช่าจะต้องนำมาตรวจสภาพกับขนส่งปีละ 2 ครั้ง เหมือนกับรถโดยสารประจำทางสาธารณะ ซึ่งตามกำหนดระยะเวลารถคันนี้ จะต้องนำมาตรวจสภาพครั้งที่ 2 ไม่เกินเดือนมกราคม 2561 ซึ่งผู้ประกอบการยังคงต้องมาดำเนินการจ่ายค่าปรับ ซึ่งมีอัตราปรับสูงสุดถึง 50,000 บาท เพราะทำผิดเงื่อนไขของกรมขนส่งทางบก


ด้านนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือผู้ที่เสียชีวิตทั้ง 18 ราย บริษัทประกันภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือเสร็จแล้ว ยังคงเหลือการช่วยเหลือในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 31 ราย ซึ่งทางจังหวัดจะยังคงติดตามและประสานงานกับ คปภ.กาฬสินธุ์ ให้การช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และการดูแลผู้บาดเจ็บ ทางจังหวัดต้องวางแนวทางการลดและป้องกันอุบัติเหตุหมู่ และคุมเข้มรถโดยสารประจำทาง โดยเฉพาะรถทัวร์ที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารระยะทางไกลในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องมีความพร้อมทุกด้าน และต้องเฝ้าระวังจุดเสี่ยง โดยเฉพาะทางขึ้นและทางลงเขาภูพาน


สำหรับบรรยากาศการสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บ และญาติผู้เสียชีวิต ยังคงดำเนินต่อไปเป็นวันที่ 2 โดย ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้อำนวยความสะดวกให้กับญาติและผู้เสียหาย เพื่อเร่งสรุปสำนวนในการส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดนครราชสีมาคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน นับจากนี้


อย่างไรก็ตามสำหรับบริษัทกันเองทัวร์นั้น ได้ขออนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร หรือที่เรียกกันว่ารถเช่าเหมาทัวร์กับสำนักงานขนส่ง จ.กาฬสินธุ์โดยมีนางทัน เลิศสหพันธ์ เป็นผู้ขออนุญาต ซึ่งครอบครัวดำเนินการกิจการเกี่ยวกับรถโดยสารมานานกว่า 30 ปี โดยเริ่มต้นจากการขับรถโดยสารให้กับบริษัทแสงประทีป เป็นรถโดยสารประจำทางระยะสั้น กาฬสินธุ์ขอนแก่น ต่อมาผู้โดยสารนิยมนั่งรถตู้มากขึ้น ก่อนที่จะผันตัวออกมาเปิดกิจการรถทัวร์เช่าเหมาในช่วง 10 ปีหลัง โดยใช้บ้านเลขที่ 340 ถ.กุดยางสามัคคี ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านปูนสองชั้นเป็นสำนักงานรับงานและมีโรงจอดรถอยู่ข้างๆบ้าน ไม่ใหญ่มากนัก โดยปัจจุบันมีรถ 3 คัน ซึ่งหลังจากเกิดเหตุได้แจ้งขอเลิกกิจการ เนื่องเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น