
เมื่อไปถึงพบกับสัตวแพทย์หญิงสุภักดี อรัญทอง สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาล กำลังดุแลไก่ชนตัวดังกล่าวอยู่พร้อมกับเปิดเผยว่า มีกลุ่มของคนรักสัตว์ได้โทรศัพท์แจ้งหมอมาว่ามีไก่ที่ไม่มีหัวอยู่ที่วัดมหาธาตุ ซึ่งตนก็ยังไม่เชื่อ จึงได้ส่งหมอกับทีมงานออกไปรับไก่มา และได้สอบถามจนทราบว่า พระที่วัดมหาธาตุได้ดูแลอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นไก่จากที่ใดแต่ที่เจอก็เป็นแบบนี้แล้ว สันนิษฐานว่าอาจจะโดนของมีคมหรือโดนสุนัขกัด แล้วให้อาหารโดยการใช้สลิ๊งค์ป้อนได้ประมาณ 1-2 วัน แต่พระอยากให้มารักษาจึงได้แจ้งเข้าไปในกลุ่มคนรักสัตว์
สำหรับแนวทางการรักษาก็คือให้ยาฆ่าเชื้อทำแผลทำเลเซอร์ ซึ่งในตอนนี้เจอปัญหาก็คือปลายลิ้นกำลังจะหลุดจึงต้องพยายามหาวิธีการที่จะกินอาหารได้ ซึ่งที่คิดได้คือจะใส่สายเหมือนการป้อนลูกนก เพราะเนื่องจากเมื่อวานและวันนี้ในตอนเช้า ยังกินอาหารได้อยู่ แต่มาในช่วงบ่ายที่บริเวณปลายลิ้นจะมีเนื้อตายทำให้ลิ้นไม่ขยับ
สำหรับการใช้ชีวิตต่อไปถ้าหากรอด ซึ่งการใช้ชีวิตด้วยตัวเองโดยธรรมชาตินั้นมีโอกาสน้อย แต่ถ้ามีคนป้อนให้อาหารนั้นมีโอกาสที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้ ซึ่งทางเราจะดูอาการประมาณ 1 อาทิตย์ ถ้าเกิดมีการตอบรับกับอาหารที่ได้กินเข้าไปได้ดี แล้วค่อยๆเล็มแผลที่ตกสะเก็ด
สำหรับเคส แบบนี้ตนเองก็ไม่เคยเจอ ซึ่งตนก็คิดอยู่ว่ามันอยู่ได้จริง ๆ หรือสำหรับไก่ไม่มีหัว แต่หลังจากที่สังเกตใกล้ ๆ จริง ๆ แล้วไม่ใช่ว่าไม่มีหัวแต่เพียงบริเวณส่วนหน้าของหัวถูกตัดออก ทำให้ยังมีรูจมูกทำให้สามารถรับอากาศได้ลิ้นก็ยังกลืนได้ ส่วนตานั้นหายไปครึ่งหนึ่ง ซึ่งอีกข้างหนึ่งน่าจะยังมีอยู่
สำหรับการมีชีวิตรอดของไก่ตัวนี้ยังประเมินไม่ได้ ขอให้แค่ 30 เปอร์เซ็นต์ของการมีชีวิตรอดในสัปดาห์นี้ก่อน แต่ถ้าหากสามารถผ่านอาทิตย์นี้ไปได้ และจะหาทางที่จะใส่อาหารเข้าไปในถุงอาหารของไก่ได้ ความหวังอาจจะมีเหมือนกับไก่ตัวหนึ่งที่อยู่ต่างประเทศ ตอนนี้ก็ปรึกษาเพื่อนที่ทำเกี่ยวกับสัตว์ปีก และสวนสัตว์ว่าใช้วิธีการอย่างไรบ้างเพื่อจะสามารถช่วยเหลือไก่ตัวนี้ได้มีชีวิตอยู่รอดไปได้นานที่สุด