
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากตำรวจชุดจับกุมได้เบาะแสว่า มีผู้ค้ายาชนิดดังกล่าวให้แก่เยาวชน ตลอดจนบุคคลทั่วไปกันอย่างแพร่หลายภายในย่านถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 จากนั้นทางตำรวจจึงทำการสืบสวนตามนโยบายของ พ.ต.อ.จิรกฤต ให้ปราบปรามร้านขายยาอันตราย ซึ่งยาชนิดนี้กลุ่มวัยรุ่นกำลังนิยม และระบาด อย่างหนัก กระทั่งทราบว่าสถานที่จำหน่ายเป็นร้านขายยาแห่งนี้ จากนั้นทางตำรวจจึงวางแผนทำการล่อซื้อ ก่อนนำกำลังไปตรวจสอบพบว่าร้านแห่งนี้เปิดอยู่ จึงให้สายลับเข้าไปทำการล่อซื้อ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้ และนำตัวสอบสวนที่ กก.ดส.บช.น.
สอบสวนผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นเจ้าของร้านขายยาแห่งนี้ โดยไม่ได้เป็นเภสัชกรแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การต้องทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา "จำหน่ายยาอันตรายเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนดไว้ , ขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฎิบัติหน้าที่ , ขายยาแผนปัจจุบันนอกเวลาทำการ , ไม่จัดทำบัญชียาที่ซื้อและขายตามกำหนดไว้ในกฎกระทรวง และไม่จัดให้มีฉลากยาที่ภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาตามที่กฎหมายกำหนด" ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับยาทรามาดอล หรือที่รู้จักในชื่อยา "เขียว-เหลือง" จะออกฤทธิ์เหมือนมอร์ฟีน ทำให้วัยรุ่นนิยมรับประทานคู่กับเครื่องดื่มชนิดต่างๆ เพราะทำให้เกิดอาการเคลิ้มสุข แต่เมื่อรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน จะมีอาการลุกไม่ไหว เดินไม่ได้ หลงๆ ลืมๆ ตาค้าง เหม่อลอย และเพ้อตลอดเวลา ถ้าใช้ผิดเป็นอันตรายถึงชีวิต