โดยกล้องวงจรปิดในร้านจับภาพคนร้ายไว้ได้ขณะก่อเหตุในร้านหลังรับแจ้งจึงประสานชุดสืบสวนสภ.ศรีราชาลงตรวจสอบที่ร้านเจทาวน์โมบาย เพื่อดูภาพวงจรปิดผู้ก่อเหตุและตรวจสอบการเข้ามาก่อเหตุของคนร้าย ซึ่งที่ด้านหลังร้านนั้นเป็นป่าหญ้าทึบ คนร้ายมาด้านหลังและปืนขึ้นหลังคาแล้วโรยตัวลงมาในร้านด้านหลัง ซึ่งในช่วงที่คนร้ายมาก่อเหตุนั้นนายสุดเขต เจ้าของร้านและครอบครัวออกไปเที่ยวทำบุญตั้งแต่เช้าและไปหาเพื่อนและหาข้าวกินกลับจนดึกจึงทำให้คนร้ายก่อเหตุได้อย่างสะดวก
เนื่องจากเห็นว่าหน้าร้านปิด และก่อเหตุอย่างใจเย็นมากค่อยๆหยิบเอาโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในร้านใส่ถุงหลังจากเสร็จก็รีบเดินไปที่ด้านหลังซึ่งไม่มีกล้องวงจรปิดติดอยู่แต่อย่างไรก็ตามทางตำรวจคาดว่าคนร้ายนั้นคงเป็นคนในพื้นที่แน่นอนที่มาก่อเหตุในครั้งนี้
ในเบื้องต้นได้ให้เจ้าของร้านและครอบครัวอย่าไปแตะต้องตรงจุดที่คนร้ายก่อเหตุเพราะว่าจะทำเรื่องไปให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรีลงมาตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย ซึ่งสวมเสื้อแขนยาวสีเขียวและมีผ้าสีน้ำเงินคลุมที่ศีรษะยาวลงมาปิดบังใบหน้า ซึ่งโทรศัพท์และทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปในครั้งนี้ประมาณ 250,000 บาท
ส่วนทางด้านด.ญ.ณัฐมน ชื่นบาน อายุ 7 ปีได้กล่าวว่ากระปุกออมสินหายไป 4 กระปุกอยากให้คนร้ายเอามาคืน เพราะว่าตนเองนั้นเก็บหอมรอมริบอดออมหยอดเงินใส่กระปุกออมสินทุกวัน ซึ่งทางตำรวจเองจะได้ติดตามกล้องวงจรปิดตามรายทางเผื่อจะพบรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เพื่อที่จะได้นำตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป