
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 ธ.ค.60 ร.ต.อ.ภานุวัฒน์ หะรังสี ร้อยเวรสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะแบบตู้ทึบเสียหลักชนรถจักรยานยนต์และรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต บริเวณถนนปทุมธานี-ติวานนท์ (มุ่งหน้าปากเกร็ด) ม.3 บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อ นางสาวเดือน ขันทา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/11 ม.5 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน และนายสันติ วงษ์สมิง อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/11 ม.5 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นอนเสียชีวิตอยู่ใต้ท้องรถกระบะแบบตู้ทึบยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 1ฒห 5369 กรุงเทพมหานคร และรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 2กจ 538 กรุงเทพมหานคร สภาพพังยับเยินจอดอยู่ข้างทาง
และยังมีรถที่จอดอยู่ข้างทางถูกชนได้รับความเสียหายอีก 2 คัน คือรถเก๋งนิสสัน มาร์ช สีเขียว หมายเลขทะเบียน ฆถ 5982 กรุงเทพมหานคร และรถเก๋งโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ญฒ 591 กรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้ง 2 คันสภาพพังยับเยิน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราย ทราบชื่อ เด็กหญิงสิรภัสสร วงษ์สมิง อายุ 2 ขวบ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย รถกู้ชีพกรุงสยามเซ็นคาร์ลอสนำส่งโรงพยาบาลปทุมธานีไปก่อนแล้ว
จากการสอบถาม นายสรวิศ บุญเทพ อายุ 30 ปี คนขับรถกระบะ บอกว่า ตนเองขับรถบรรทุกใส่เครื่องกรองน้ำมาจาก จ.ปทุมธานี และกำลังจะนำไปส่งที่ร้านย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนได้ขับรถลงจากสะพานข้ามแยกตลาดปู่โพธิ์และกำลังจะเบี่ยงมาทางเลนซ้าย และมองไม่เห็นรถจักรยานยนต์จึงทำให้เสียหลักชนรถจักรยานยนต์เข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนญาติผู้เสียชีวิตบอกว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เป็นสามีภรรยากันซึ่งไปเยี่ยมลูกชายที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ และกำลังจะกลับบ้านย่านตลาดปากเกร็ด ส่วนเด็กหญิงสิรภัสสร วงษ์สมิง อายุ 2 ขวบที่มาด้วยเป็นหลานของผู้ตายทั้ง 2 คน
ด้าน ร.ต.อ.ภานุวัฒน์ หะรังสี ร้อยเวรสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วจึงได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและนำคู่กรณีทั้งหมดไปสอบสวนที่ สภ.ปากคลองรังสิต อีกครั้งและได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง.