
เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ มิชลิน ไกด์ ฉบับกรุงเทพฯ ประจำปี 2018 ซึ่งถือเป็นมิชลิน ไกด์ เล่มแรกของเมืองไทย งานเปิดตัวและประกาศรายชื่อร้านอาหารที่ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในลิสต์ของสมุดปกแดง จัดขึ้น ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ ซึ่งมีทั้งเชฟชื่อดังและคนทำงานในอุตสาหกรรมร้านอาหารมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง รวมถึงนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งบอกว่า การมาถึงของมิชลิน ไกด์ ฉบับกรุงเทพฯ นั้นเป็นหมุดหมายที่สำคัญด้านการท่องเที่ยวและอาหารของประเทศไทย
สำหรับผลการประกาศร้านอาหารที่ผ่านการคัดเลือกจาก The Michelin Guide ได้รับรางวัล 2 ดาวมิชลิน มี 3 ร้าน ได้แก่ Gaggan (กากั้น) อาหารอินเดีย ที่มีเอกลักษณ์ แปลกใหม่ และสร้างสรรค์ ลงตัวทั้งเนื้อสัมผัส รสชาติ และเครื่องเทศ , Le Normandie (เลอ นอร์มังดี) ร้านอาหารซึ่งเปิดให้บริการในโรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล นำเสนออาหารฝรั่งเศสชั้นสูง ที่ปรุงอย่างลงตัว วัตถุดิบชั้นยอด และเทคนิคขั้นสูง และร้าน Mezzaluna (เมซซาลูน่า) อยู่บน 65 ของโรงแรมเลอบัว
นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร 14 ร้านได้รางวัล 1 ดาวมิชลิน โดย 7 ร้านเป็นร้านอาหารไทย เช่น ร้านชิม บาย สยาม วิสดอม, ร้านโบ.ลาน, ร้านเสน่ห์จันทร์ ,ร้านสระบัว บาย กินกิน
โดยมีร้านอาหารริมทาง หรือ สตรีทฟู้ด ได้รางวัล 1 ดาวมิชลิน 1 ร้าน คือ ร้านเจ๊ไฝ ย่านประตูผี ที่เชฟเจ้าของร้านปรุงอาหารด้วยเตาถ่านในครัวเปิดขนาดเล็ก โดยสืบทอดกิจการที่รุ่นพ่อได้ริเริ่มขึ้น เมื่อ 70 ปีก่อนและโชว์ฝีมือระดับตำนานด้วยการปรุงเมนูเด็ด อย่าง ไข่เจียวปู ปูผัดลงกระหรี่ โจ๊กแห้ง
สำหรับร้านอาหารนานาชาติที่ผ่านการคัดเลือก 1 ดาวมิชลิน อาทิ Ginza Sushi Ichi (กินซ่า ซูชิ อิชิ), Suhring (เซือริ่ง), L'Atelier de Joel Robuchon (ลัตเตอลิเยร์ เดอ โจแอล โรบูชง)
โดยมิชลิน ไกด์ ฉบับภาษาไทย ประจำปี 2018 นั้นถือเป็นฉบับที่ 5 ในเอเชีย และเป็นฉบับประเทศที่ 30 ของโลก คาดว่ามิชลิน ไกด์ เล่มนี้จะสามารถช่วยกระตุ้นตัวเลขการท่องเที่ยวตามนโยบายการท่องเที่ยวเชิงอาหารของกระทรวงการท่องเที่ยว
ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา ผู้ตรวจสอบของมิชลินทำงานอย่างไม่เปิดเผยตัว เนื่องจากเป็นกฎเหล็กของบริษัท และไม่ใช่เพียงแค่ร้านอาหารที่ไปชิมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงครอบครัว คนใกล้ชิด และสื่อมวลชน กระทั่งผู้บริหารระดับสูงของมิชลินเองก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ให้คะแนน
กรรมการทำงานนอกสถานที่เดือนละ 3 สัปดาห์ ผู้ตรวจสอบเดินทางราว 30,000 กิโลเมตรในฐานะลูกค้าคนหนึ่งเพื่อชิมอาหาร 250 มื้อ และเช็กอินในโรงแรมกว่า 160 แห่ง เพื่อจัดทำหนังสือมิชลิน ไกด์
ผู้ทำการตรวจสอบไม่จำเป็นต้องเป็นชาติเจ้าของอาหารเสมอไป แต่ต้องมีความรู้เรื่องอาหาร และต้องเข้าใจในรสอาหารของชาติที่ไปตรวจสอบ
ผู้สนใจสามารถเปิดดูรายชื่อร้านอาหารที่มิชลินระบุในไกด์บุ๊กได้เต็มๆ ในมิชลิน ไกด์ เล่มแรกของเมืองไทย ประจำปี 2018 ได้ตามร้านหนังสือทั่วไปในราคา 650 บาท