นายสิระพงษ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เรามีเราก็แบ่งปัน จึงตระเวนนำรถวีลแชร์บ้าง แพมเพิสบ้าง บางกรณีก็นำเงินไปให้บ้าง ไปมอบให้คนที่ขอมา ที่เขาเดือดร้อน ป่วย หรือด้อยโอกาส และไม่ใช่ทำแค่ในอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานีเท่านั้น บางครั้งถ้ามีการประสานมาจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จากต่างพื้นที่เราก็ไปช่วย เรามี "ชมรมสองล้อใจบุญ เกื้อหนุนผู้ยากไร้" ผมเป็นประธานที่ปรึกษาอยู่ ถ้ามีการประสานขอความช่วยเหลือมา ผมก็จะลงไปช่วยเหลือทันที
วันนี้นายสิระพงษ์ มองว่าการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญมาก ผมอยากให้เด็กๆ ในชุมชนไม่ว่าจะเป็นเด็กในอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี หรือจังหวัดอื่นๆ ได้มีโอกาสพูดภาษาอังกฤษได้ สมัยผมเด็กๆ กว่าจะได้เล่าเรียนภาษาอังกฤษก็ต้องเรียนถึงชั้น ป.5 หรือ ป.6 สมัยนั้นผมมองแล้วว่าไม่ทันแน่ วันนี้ภาษาอังกฤษจำเป็นมากๆ โดยเฉพาะประชาคมอาเซียน การรวมตัวกันของประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย พม่า ลาว เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา และ บรูไน เป็นการเปิดกว้างให้ประชาชนในแต่ละประเทศ สามารถเข้าไปทำงานในประเทศอื่นๆ ในประชาคมอาเซียนได้อย่างเสรี เสมือนดังเป็นประเทศเดียวกัน ภาษาจึงเป็นเรื่องสำคัญ ผมได้จ้างครูจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันอเมริกันอิงลิช มาช่วยสอนเด็กในชุมชน สอนฟรีไม่เสียเงิน โดยผมออกค่าใช้จ่ายให้ ก็เพื่ออยากให้เด็กเหล่านั้นได้พูดภาษาได้ และอยากให้ทุกชุมชนทำแบบนี้
นายสิระพงษ์ มองว่าจังหวัดปทุมธานี การใช้ชีวิตของคนปทุมฯ จะมีวิถีชีวิตอยู่ 2 แบบ คือวิถีคนเมือง กับวิถีคนชนบท ซึ่งคนชนบทจะมีความเอื้ออาทรณ์ต่อกัน ส่วนคนเมืองต่างคนต่างเอาตัวรอดเรียกว่าไม่ค่อยดูแลกัน ซึ่งวิถีสองแบบนี้ ผมพยายามสร้างจิตสำนึกปลูกฝังเด็กๆ ให้เขามีจิตสำนึกในการให้ ถ้าเริ่มจากการศึกษาที่ดี ผมเชื่อว่าทุกอย่างก็จะดีตามมา
หลายคำถามที่มีคนพูดอยู่เสมอว่า ผมทำเอาหน้าหรือไม่ ผมตอบได้เลยว่า ไม่ได้ทำเอาหน้า เพราะผมทำมานานหลายปี ต่างประเทศผมก็ไปช่วยเหลือมา ในประเทศไทยหลายๆจังหวัด ผมก็ไปช่วยเหลือมาแล้ว
บางครั้งมีคนมองว่า คนที่ผมลงไปช่วยเขาไม่ทำมาหากินหรืออย่างไร ผมตอบได้เลยว่า เขาไม่อยากป่วย เขาไม่อยากพิการ เขาไม่อยากเป็นคนจน สิ่งที่เขาเป็นอยู่ทุกวันนี้ บ่งบอกได้ว่า ถ้าเราจะช่วยคนเหล่านั้น อย่าไปคิดในแง่ลบมากเกินไป ถ้ารามีเหลือ เราพร้อม เราคิดบวก เราช่วยเลย แล้วเราก็จะสบายใจ
ฝากถึงพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกคน การทำดีทำไปเลยครับ ไม่ต้องอายใคร และไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาบ่นมาต่อว่า ทำไปเถอะ เรารู้อยู่แก่ใจ เราช่วยคน เรามีความสุข เราตายไปเราก็เอาอะไร ไปไม่ได้อยู่แล้ว นายสิระพงษ์ กล่าวฯ