พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงมหาดไทย พิจารณาจัดทำแผนติดตั้งกล้องวงจรปิดเร่งด่วนเพิ่มเติมในพื้นที่จุดเสี่ยงที่จำเป็นของแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งประสานขอความร่วมมือภาคเอกชน สนับสนุนการเชื่อมโยงและใช้ประโยชน์กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งนอกอาคาร ให้สามารถสานต่อครอบคลุมเป็นเครือข่ายดูแลความปลอดภัยของประชาชนได้ในภาพรวม
พล.ท.คงชีพ กล่าวเพิ่มเติมว่า การบูรณาการเชื่อมโยงเครือข่ายและใช้ศักยภาพกล้องวงจรปิดภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ รวมทั้งการสนับสนุนติดกล้องวงจรปิดรถยนต์สาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล เป็นนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยของประชาชนและติดตามการเชื่อมโยงปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้น โดยเชื่อว่า ความร่วมมือของภาคเอกชนในงานความมั่นคง จะเป็นกำลังร่วมที่สำคัญในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนและสร้างวินัยทางสังคมควบคู่กันไปในภาพรวม