นางสาวนฤมล กรคณิตนันท์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) บอกว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี มีผู้ได้รับพิษจากแมงกะพรุนบริเวณชายหาดชะอำ บริเวณหน้าสวีทโฮม รีสอร์ท ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยฯ จึงเข้าสำรวจพื้นที่เกิดเหตุด้วยการลากอวนทับตลิ่งที่ระดับน้ำลึกประมาณ 0.8 - 1.0 เมตร ขนานชายฝั่งเป็นระยะทาง 100 เมตร จำนวน 3 ครั้ง พบตัวอ่อนแมงกะพรุนไฟ 1 ตัว ควบคู่กับการเดินสำรวจบริเวณชายหาดพบแมงกะพรุนหนัง 4 ตัว และแมงกะพรุนลอดช่อง 6 ตัวและได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลชะอำ พบว่า ผู้ป่วยเป็นเด็กชาย อายุ 5 ปี สัญชาติไทย ได้รับพิษแมงกะพรุนบริเวณขาทั้งสองข้าง ลักษณะเป็นรอยไหม้ ผื่นแดงเป็นปื้นบริเวณขา มีอาการปวด ที่แผล จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการราดด้วยน้ำส้มสายชูที่อยู่ในเสาน้ำส้มบริเวณชายหาด จากนั้นเข้ารักษาอาการที่โรงพยาบาลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
สำหรับแมงกะพรุนเป็นสัตว์ประเภทไม่มีกระดูกสันหลัง โดยทั่วไปลำตัวมีลักษณะคล้ายร่มหรือดอกเห็ด บางชนิดคล้ายระฆัง ด้านหลังโค้ง อาจมีสีหรือไม่มีสี ด้านท้องมีหนวดที่มีขนาดสั้นหรือยาวและรูปแบบแตกต่างกันตามชนิด แมงกะพรุนทุกชนิดที่หนวด และลำตัวจะมีเซลล์เข็มภายในเซลล์มีถุงพิษใช้ในการป้องกันตัวและล่าเหยื่อ
ซึ่งแต่ละชนิดมีความรุนแรงของพิษมากน้อยแตกต่างกันและเป็นอันตรายต่อมนุษย์ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ไปพักผ่อนและลงเล่นน้ำทะเลหรือชาวประมงน้ำตื้นและลูกเรือประมงโดยข้อควรระวังที่สุดห้ามใช้น้ำจืดล้าง เนื่องจากจะกระตุ้นเข็มพิษให้ทำงานมากขึ้น การใช้แอมโมเนียล้างแผลยิ่งทำให้อาการปวดแย่ลง ห้ามถูหรือขยี้แผลจะยิ่งทำให้พิษของแมงกะพรุนกระจายออกไปไวขึ้น
จึงอยากให้ประชาชนก่อนจะลงเล่นน้ำทะเลควรสำรวจพื้นที่ดังกล่าวปลอดภัยสำหรับการเล่นน้ำหรือไม่ หากพบเห็นวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายปลาหมึกหรือแมงกะพรุนไม่ควรไปหยิบหรือเข้าใกล้และให้รับขึ้นจากน้ำทันที
สำหรับวิธีช่วยเหลือและปฐมพยาบาลเบื้องต้น ผู้ที่ได้รับพิษจากแมงกะพรุน คือ ช่วยเหลือต้องแน่ใจว่าตนเองปลอดภัยจากแมงกะพรุน //
นำผู้บาดเจ็บขึ้นจากน้ำ หรือ ไปยังบริเวณที่ปลอดภัย
ให้ผู้บาดเจ็บอยู่นิ่งๆ เพื่อลดการยิงพิษจากแมงกะพรุน
ห้ามขัดถูบริเวณที่ถูกแมงกะพรุน
เรียกให้คนช่วย และโทร 1669 เรียกรถพยาบาลฉุกเฉิน
ทั้งนี้ ควรสังเกตประเมินอาการตลอดเวลา หากหมดสติ ไม่หายใจ หรือไม่มีชีพจร ให้ทำการ CPR ทันที /ล้างบริเวณที่ถูกพิษด้วยน้ำส้มสายชูบ้าน ความเข้มข้นร้อยละ 2-10 นานอย่างน้อย 30 วินาที หากไม่มีให้ใช้น้ำทะเล
ใช้ถุงมือหนา หรือแหนบคีบหนวดที่ยังติดอยู่ ห้ามใช้มือหยิบ ให้ใช้วัสดุขอบเรียบ เช่น เปลือกหอย บัตร สันมีด ขูดเอาเมือกที่เหลืออยู่ออก ใช้น้ำแข็งประคบลดอาการปวด หลังจากที่ล้างด้วยน้ำส้มสายชูแล้ว หรือใช้ผักบุ้งทะเลตำพอก ที่แผล และสุดท้าย รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล