นายอภิรักษ์ เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณสี่ทุ่ม ตนและเพื่อนได้ไปคุยคุยธุระกันที่ร้านอาหารดังกล่าว ก่อนมีตำรวจนอกเครื่องแบบซึ่งเป็นฝ่ายสืบสวนไม่ทราบสังกัดรวม 4 นาย มีตำรวจนายหนึ่งไม่ทราบยศและตำแหน่ง ซึ่งตนรู้จักมาก่อนจำเพียงชื่อเล่นได้แค่ว่า อาร์ต เข้ามาขอตรวจค้นคนในกลุ่มตน โดยชักอาวุธปืนออกมาขึ้นลำจ่อที่ตนและเพื่อนๆ กระทั่ง สามารถจับกุมรุ่นน้องชื่อ นายวรรลภ มณีธีรพงศ์ อายุประมาณ 20 ปี ไว้ได้พร้อมอาวุธปืนมีทะเบียนที่ญาตินำมาฝากไว้ จำนวน 2 กระบอก
จากนั้น ตำรวจที่ชื่ออาร์ตพร้อมพวก ก็คุมตัว นายวรรลภ มาส่งดำเนินคดีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ผู้อื่นได้รับอนุญาตให้มีและใช้ถูกต้องตามกฎหมายไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ปืนที่นายวรรลภ ถูกยึดไปนั้นถูกค้นพบในกระเป๋าสะพาย ประกอบด้วย อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ยี่ห้อสมิแอนด์เวสสัน จำนวน 1 กระบอก และอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม.ยี่ห้อบาเร็ตต้า อีก 1 กระบอก รวมทั้งสิ้น 2 กระบอก แต่ตนเกิดความสงสัยว่าเหตุใดตำรวจชุดจับกุมจึงลงในบันทึกพร้อมส่งของกลางกับพนักงานสอบสวนเพียงกระบอกเดียว คือปืนลูกโม่ ส่วนปืนกึ่งอัตโนมัติหายไปไหน เมื่อตนสอบถามไปกับทางตำรวจที่ชื่ออาร์ต ก็ได้ความว่าเดี๋ยวจะช่วยเหลือให้นายวรรลภ ได้รับการประกันตัว แต่ต้องมีค่าดำเนินการให้นาย โดยก็ยังไม่ตกลงราคากันที่เท่าใด กระทั่งตนแจ้งสื่อมวลชนมาร่วมสังเกตการณ์ในวันนี้ทำให้ นายวรรลภ ได้รับการประกันตัวโดยยื่นหลักทรัพย์จำนวน 100,000 บาท และก็ไม่สามารถติดต่อกับตำรวจชื่ออาร์ตได้ ซึ่งตนก็ยังไม่ทราบว่าปืนอีกกระบอกที่หายไป และจะได้คืนหรือไม่ "ตนกลัวว่าหลังจากนี้จะถูกลอบปองร้ายจึงนำเรื่องไปปรึกษาทนายความ และประสงค์จะเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจที่ชื่ออาร์ต พร้อมพวกในข้อหาพยายามฆ่า ที่เอาปืนออกมาขึ้นลำชี้มาที่ตน กับข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับสินบน โดยขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน สน.บางบอน ได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้ว และอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าชุดจับกุมเป็นฝ่ายสืบสวนสังกัดใด อีกทั้งให้ตนไปเก็บหลักฐานเป็นภาพกล้องวงจรปิดในร้าน และคลิปวีดีโอที่ได้ถ่ายเอาไว้มามอบให้อีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป" นายอภิรักษ์ กล่าว