ทั้งนี้ ผลจากการตรวจสอบพบ โรงแรม เอสดีพี ระนอง เลขที่ 38/15 หมู่ 3 ต.บางนอน อ.เมืองระนอง จ.ระนอง และโรงแรมบูติกโฮเต็ล เลขที่ 36-37 ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง พบว่าประกอบธุรกิจให้บริการที่พักชั่วคราว (รายวัน) สำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน เข้าข่ายเป็นโรงแรม โดยไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมแต่อย่างใด ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบว่าผู้ที่เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวชาวเมียนมาร์ และทางผู้ประกอบการไม่ได้จัดทำทะเบียนผู้พักอย่างถูกต้องอีกด้วย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน "ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน" ตาม พ.ร.บ.โรงแรมฯ มาตรา 15, 59 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่
จากการสอบถาม ทางเจ้าของโรงแรมทั้ง 2 แห่ง รับสารภาพว่า ไม่เคยได้รับใบอนุญาตจริง โดยหลังจากถูกดำเนินคดีในครั้งนี้แล้ว จะไปยื่นเรื่องขอรับใบอนุญาตฯให้ถูกต้อง เจ้าพนักงานจึงทำการจับกุมและร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนฝ่ายปกครอง อ.เมืองระนอง ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม อยากจะขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบธุรกิจให้เช่าห้องพักรายวัน ซึ่งเข้าข่ายเป็นโรงแรมในพื้นที่ จ.ระนอง และทั่วประเทศว่า ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินธุรกิจหรือปฏิบัติให้ถูกต้องภายใต้ข้อกำหนดของ พ.ร.บ.โรงแรมฯ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ออกกฎกระทรวงกําหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2559 แก้ไขข้อขัดข้องและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการที่ติดปัญหาเรื่องการใช้อาคารผิดประเภท ให้สามารถทำเรื่องขอเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารมาประกอบธุรกิจโรงแรมได้แล้ว จึงขอให้ผู้ประกอบการมาติดต่อยื่นเรื่องขอรับใบอนุญาตฯให้ถูกต้อง โดยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง ในเวลาราชการ