
กระบวนการดำเนินการแบบสหวิชาชีพที่เข้ามาช่วยในคดีที่มีเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี ตกเป็นผู้เสียหายหรือพยาน เป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 133 ทวิ / ซี่งระบุไว้ว่าจะใช้ในเงื่อนไขที่เป็นคดีในความผิดต่างๆ คือ ความผิดเกี่ยวกับเพศ / ชีวิตและร่างกายอันมิใช่ความผิดที่เกิดจากการชุลมุนต่อสู้ / ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ / ความผิดฐานกรรโชก ชิงทรัพย์และปล้นทรัพย์ / ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี / ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้าหญิงและเด็ก ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ หรือคดีความผิดอื่นที่มีอัตราโทษจำคุก
ทั้งหมดนี้ ผู้เสียหายหรือพยานที่เป็นเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปีสามารถร้องขอการถามปากคำ โดยที่มีกระบวนการเป็นขั้นตอนคร่าวๆ แบบนี้ ( ดูตามกราฟฟิก) ให้พนักงานสอบสวนแยกกระทำเป็นส่วนสัดในสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก และให้มีนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ / บุคคลที่เด็กร้องขอ / และพนักงานอัยการร่วมอยู่ด้วยในการถามปากคำเด็ก/ ถ้านักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์เค้ามองว่าเห็นว่าการถามปากคำเด็กคนไหนหรือคำถามไหน อาจจะมีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจเด็กอย่างรุนแรง ก็ให้พนักงานสอบสวนถามผ่านนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ โดยไม่ให้เด็กได้ยินคำถามนั้นยังไม่จบนะคะ สมมติว่านักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ หรือพนักงานอัยการที่เข้าร่วมในการถามปากคำอาจถูกผู้เสียหายหรือพยานซึ่งเป็นเด็กตั้งรังเกียจได้ หากมีกรณีเกิดขึ้นให้เปลี่ยนตัวผู้นั้น
คราวนี้ หากว่าดำเนินการมาถึงขั้นของการชี้ตัว พนักงานสอบสวนก็ต้องจัดสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับเด็กและสามารถป้องกันมิให้บุคคลซึ่งจะถูกชี้ตัวนั้นเห็นตัวเด็ก โดยให้มีกลุ่มคนตามที่อยู่ในกระบวนการถามปากคำเมื่อสักครู่อยู่ด้วย