
เที่ยวบินที่ TG677 สนามบินนานาชาตินาริตะประเทศ ญี่ปุ่น ปลายทางสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ถึงเวลาประมาณ 21.55 น. ของวันที่ 19 ก.ค.2560
22.00 น. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พร้อมอัยการ เดินทาง ไปรับตัวเณรคำที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อนำตัว มาสอบปากคำที่ ดีเอสไอท่ามกลางสื่อมวลชนทุกแขนงดักรอเก็บภาพ เณรคำ กลับประเทศไทย
22.05 น. เณรคำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ -อัยการ เดิน ทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดบเณรคำ ยังคงเเต่งกาย ห่มจีวร สีเหลือง ก่อนที่ จะนำตัว ออกจากอาคารผู้โดยสารขาเข้า ทาง ช่องทางพิเศษด้านอาคารเอ ฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นช่องทางของ พนักงานใช้เข้า-ออก เท่านั้น
23.30 น. เจ้าหน้าที่ คุม เณรคำ มาถึงดีเอสไอ เพื่อสอบปากคำ ก่อนแจ้งข้อหา ดำเนินคดี โดย พ.ต.อ.ไพสิฐ , นายณัฐกิตติ ไชยวรรณรัตน์ นักวิชาการศาสนา ชำนาญการ สำนัก งานพระพุทธ ชี้แจงขั้นตอนการรับตัว
จากนั้น พาเข้าห้องประชุมชุมอาคาร 1 ชั้น 3 ตรวจร่างกาย ทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ สอบปากคำ และแจ้งข้อหาที่ดำเนินคดี 6 ข้อหา พร้อมประสานญาติพี่น้องของ นายวิรพล ให้รับทราบ พร้อมเตรียมทีมแพทย์ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
สอบสวน นายวิรพล ไม่ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เพราะอยากเดินทางกลับประเทศ ไทย และให้อยากให้บ้านเมืองสงบสุข
ผู้เชี่ยวชาญศาสนาพุทธ แจ้งให้ นายวิรพล ทราบ เรื่องการแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ว่า มีความผิดตาม พ.ร.บ.สงฆ์ และให้สละผ้าเหลือง เณรคำ ยอมถอดผ้าเหลือง แต่ไม่ยอมเปล่งวาขาลาสิขา เพระขาดจากความเป็นพระภิกษุสงฆ์ก่อนหน้านี้แล้วกระทั่ง 09.30 น. วัน 20 กรกฎาคม พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำตัวนายวิรพล เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เป็นชุดขาว พร้อมกับสำนวนการสอบสวน เดินทางไปยัง สำนักงานอัยการคดีพิเศษ โดยมีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง
10.00 น.อัยการสูงสุด มีความเห็นสั่งฟ้อง "เณรคำ" 2 สำนวน 5 ข้อหา พร้อมร้องขอเงิน 28.6 ล้านบาท คืนผู้เสียหาย ก่อนนำส่งตัวฝากขังต่อศาล โดยคัดค้านการประกันตัว
12.00 น.ศาลแพ่ง มีคำสั่งยึดทรัพย์ นายวิรพล มีทั้งรถหรู ที่ดิน และเงินในบัญชี รวม 43 ล้านบาท โดยเชื่อได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ให้ตกเป็นของแผ่นดิน.