"เคยู กรีน" เรือพลังงานแสงอาทิตย์ ฝีมือคนไทยใช้ได้เยี่ยมเลย

ซึ่งพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ต้นแบบ คือ คลองลัดมะยม นับเป็นการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ผลผลิตงานวิจัยด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ สู่การกระจายรายได้ของชุมชน"เคยู กรีน" หรือ เรือพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นเรือที่ถูกพัฒนาขึ้นจากการวิจัย โดยกลุ่มนักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะพาณิชยนาวีนานาชาติ คณะเศรษฐศาสตร์ ศรีราชาพร้อมด้วย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ คณะศิลปศาสตร์ประยุกต์ ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือ สกว. ปี 2559ภายใต้ "แผนงานวิจัยการศึกษาการใช้เรือพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับการพัฒนาการท่องเที่ยวทางน้ำในกรุงเทพมหานคร"

เรือลำนี้ มีความยาวขนาด 8.5 เมตร กว้าง 2.5 เมตร สามารถรับ-ส่งผู้โดยสารได้ 12 ที่นั่ง มีแผงโซล่าร์เซลล์ขนาด 300 วัตต์ ติดอยู่ที่หลังคาเรือ จำนวน 6 แผ่นใช้แบตเตอร์รี่ขนาด 12 โวลล์ จำนวน 8 ลูก มีระบบปลั๊กอิน ที่สามารถชาร์ตกับไฟบ้านได้ มีระยะเวลาการใช้งานถึง 8 -10 ชั่วโมง
วันที่ 4 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา ดร.จันทรวิภา ธนะโสภณ รองผู้อำนวยการ สกว. พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร และผู้ทรงคุณวุฒิ สกว.ลงพื้นที่ คลองลัดมะยม เพื่อล่องเรือพลังงานแสงอาทิตย์ อันเป็น ผลผลิตงานวิจัยมุ่งเป้า สกว.ในปี 2559รองผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยมุ่งเป้า สกว. ผศ.สุภาวดี โพธิยะราช กล่าวถึงการสนับสนุนงบประมาณในการวิจัย และการต่อยอด ว่า ตอนนี้ได้มอบเรือลำนี้ให้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และได้แจ้งว่าให้จัดทำโครงการต่อเนื่อง เพื่อดำเนินการในเรื่องของการตลาด คือ อาจจะจัดในรูปแบบของกิจกรรมการท่องเที่ยวช่วง กลางคืน เพื่อให้ชุมชนในระแวกนี้มีกิจกรรมร่วมกัน อาจจะขยายผลไปที่อัมพวาเพราะลักษณะของการใช้เรือพลังงานแสงอาทิตย์น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ได้ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆด้วย

ผู้ออกแบบเรือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยอดชาย เตียเปิ้น กล่าวถึงจุดเด่นของเรือ เค ยู กรีน ว่า เรือลำนี้เราเลือกใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เพราะว่าเป็นพลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเรือลำนี้ออกแบบโดยมีจุดเด่นที่การประหยัดพลังงาน และไม่ก่อมลภาวทางเสียงและทางคลื่น จุดเด่นอีกอย่างคือ เรือลำนี้สามารถชาร์ตไฟจากบ้าน ในกรณีที่ไม่มีแดดได้

อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ ม.เนชั่นและหัวหน้าโครงการผลักดันผลประโยชน์การวิจัย สู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ สกว. อาจารย์ฉัตรฉวี คงดี กล่าวถึง การผลักดันการใช้ประโยชน์จากงานวิจัย ว่า สกว.ได้เล็งเห็นความสำคัญของผลผลิตงานวิจัย โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 4 ที่มุ่งผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ของผลผลิตงานวิจัยในรูปแบบต่างๆ อาทิ เส้นทางการท่องเที่ยว กิจกรรมทางการท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยว โดยทีมเราจะเป็นตัวกลางระหว่าง สกว. นักวิจัย ชุมชน และผู้ใช้ประโยชน์ คือ ผู้ประกอบการ ในการที่จะทำให้ผลการวิจัยที่ออกมามีการขยายผล ต่อยอดเพื่อการพัฒนาชุมชน และการท่องเที่ยวของประเทศต่อไป

อาจารย์เกวลิน มะลิ คณะเศรษฐศาสตร์ ศรีราชา  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศรีราชา กล่าวถึง การวิเคราะห์เรื่องความคุ้มค่าทางด้านเศรษฐศาสตร์ โดยครอบคลุมทั้งต้นทุนการผลิตและต้นทุนด้านการบริหารจัดการ และรายได้จากการตั้งราคา โดยสำรวจจากความเต็มใจจ่ายซื้อ (willingness to pay) ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ได้มาทดลองนั่งเรือพลังงานแสงอาทิตย์ลำนี้ นอกจากนี้ยังทำการสำรวจพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวและเส้นทางการท่องเที่ยวที่มีความเหมาะสมกับเรือพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อให้เกิดการพัฒนาการท่องเที่ยวทางน้ำที่ชุมชนตลาดน้ำคลองลัดมะยมได้เข้ามามีส่วนร่วมต่อไปด้านประธานชุมชนตลาดน้ำคลองลัดมะยม นายชวน ชูจันทร์ กล่าวถึงประโยชน์ที่ได้รับจากงานวิจัยชิ้นดังกล่าว ว่า สิ่งแรกคือ เราได้มีทางเลือกให้นักท่องเที่ยว จากที่ใช้เรือของชาวบ้านทั่วไป เรือพายเล็กๆ เรือยนต์ แล้วก็เรือแจว ตอนนี้เรามีเรือโซล่าเซลล์เข้ามาคนก็จะได้เห็นว่า โซล่าเซลล์ นอกจากนำมาใช้บำบัดน้ำแล้ว ยังใช้ขับเคลื่อนเรือก็ได้ อันนี้ก็ถือเป็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ลำนี้เป็นลำแรกแน่นอนว่าความสมบูรณ์ยังคงไม่มี ไม่ได้หวังว่าลำนี้ต้องสมบูรณ์ที่สุด หรือต้องดีที่สุด แต่เราจะไม่หยุดอยู่ตรงนี้ ต้องค้นคว้าหาทางทำไป เหมือนกับรถยนต์ คันแรก เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว ถ้าเราหยุดคิดวันนี้ก็คงไม่ได้อะไรแบบนี้

เรือลำนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นเรือต้นแบบ ด้านธุรกิจการท่องเที่ยวทางน้ำ ถือเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ที่เน้นสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ด้วยรูปลักษณ์ของเรือที่มีขนาดกำลังดี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังได้ชมธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และทัศนียภาพริม 2 ฝั่งแม่น้ำ