
นายธีรพล ขุนเมือง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) เผยว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลไทยและรัฐบาลภูฏานได้หารือร่วมกันเมื่อปลายปี 2559 โดยประเทศภูฏานได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCG) และสถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทย เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ช่างก่อสร้างให้แรงงานชาวภูฏาน และนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานเป็นตัวแทนรัฐบาลไทย ดำเนินการให้การสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ดังกล่าว โดยมีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ภายใต้การนำของพลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกรทรวงแรงงาน ให้เป็น Brain Power ตามยุทธศาสตร์ 20 ปีของกระทรวงแรงงาน
นางอัจฉรา แก้วกำชัยเจริญ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า สำหรับการฝึกอบรมหลักสูตร "The Installer Training Program" ในครั้งนี้ เป็นการฝึกอบรมให้แก่ช่างชาวภูฏาน จำนวน 28 คน ระหว่างวันที่ 6 พฤษภาคม 23 มิถุนายน 2560 ซึ่งกพร.ได้มอบหมายให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 13 กรุงเทพมหานคร ร่วมกับบริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด ดำเนินการจัดฝึกอบรม พร้อมสนับสนุนวิทยากรฝึกอบรม ในสาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร และออกประกาศนียบัตรร่วมกัน เพื่อมอบให้แก่ผู้ผ่านการฝึกอบรม
การฝึกอบรมให้แก่แรงงานและครูฝึกของประเทศภูฏานนั้น บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCG) ได้มอบหมายให้สถาบันนายช่างดี เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการจัดฝึกอบรมในสาขาช่างต่างๆ ได้แก่ ช่างก่ออิฐ ช่างฉาบปูน ช่างมุงหลังคากระเบื้องคอนกรีต ช่างปูกระเบื้องผนังและพื้น ช่างติดตั้งฝ้าและผนังสมาร์ทบอร์ด ช่างติดตั้งสุขภัณฑ์และก็อกน้ำ ช่างติดตั้งพีพีซี และช่างไฟฟ้าภายในอาคาร
ราชอาณาจักรภูฏาน เป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียที่มีขนาดเล็ก มีภูเขาเป็นจำนวนมาก ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยระหว่างประเทศอินเดียกับประเทศจีน ปกครองแบบราชาธิปไตย (Constitutional Monarchy) มีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข และจำนวนประชากรกว่า 700,000 คน มีความสัมพันธ์กับไทยอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ปี 2550 โดยไทยให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการ ในขณะที่ภูฎานชื่นชมความสำเร็จในการพัฒนาประเทศและนำไปปรับใช้ในการพัฒนาประเทศ และที่สำคัญภูฏานให้การสนับสนุนไทยในเวทีระหว่างประเทศ ปัจจุบันไทยและภูฏานยังไม่มีการลงทุนระหว่างกัน แต่ภูฏานมีศักยภาพที่นักธุรกิจไทยสามารถไปลงทุนได้ใน 2 สาขา คือ การก่อสร้างและการท่องเที่ยว เนื่องจากภูฏานเพิ่งเปิดประเทศและเริ่มมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจแบบสมัยใหม่เพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และยังคงต้องการโครงสร้างพื้นฐานอีกมาก อาทิ ถนน และสาธารณูปโภคต่าง ๆ ซึ่งในอนาคตไทยสามารถเข้าไปร่วมพัฒนาด้านนี้ได้ เช่น การสร้างถนน การสร้างที่ทำการของรัฐและเอกชน เป็นต้น ที่ผ่านมาได้ฝึกอบรมให้กับชาวภูฏานไปแล้วประมาณ 40 คน
ความร่วมมือในการฝึกอบรมให้แก่คณะช่างชาวภูฏานในครั้งนี้ จึงเป็นการส่งเสริมและยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงานภูฎาน ให้มีความรู้และเพิ่มทักษะด้านการก่อสร้างมากขึ้น รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลภูฏานอีกด้วย อธิบดี กพร.กล่าวทิ้งท้าย