svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ดร.นันทริกา" โพสต์แจงฝรั่งอ้างชื่อตก "กระเบนราหู"

ชาวสมุทรสงครามโวยฝรั่งตกปลากระเบนราหู ไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊ค ขณะที่ผู้ว่าลงพื้นที่ควบคุมตัวผู้นำตกปลา ดำเนินคดี แต่ไม่พบฝรั่ง พร้อมเผยชาวสมุทรสงครามได้ผลักดันการอนุรักษ์ปลากระเบนราหูมาโดยตลอด แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับระเบียบและวิธีการของกรมประมงต่อไป

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2560 เวลา13.00น. นายคันฉัตร ตันเสถียร ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีที่มีกระแสในโลกโซเชียลกล่าวถึงฝรั่งตกปลากระเบนเจ้าพระยาหรือที่ชาวบ้านมักเรียกว่าปลากระเบนราหู ในแม่น้ำแม่กลอง พื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงความไม่เหมาะสม เนื่องจากปลากระเบนราหูเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธ์ และเพื่อช่วงปลายปี2558เป็นต้นมา เกิดวิกฤติน้ำในแม่น้ำแม่กลองเสียจนปลากระเบนราหูตายไปเกือบ50ตัว ทำให้ชาวจังหวัดสมุทรสงครามตื่นตัวในการอนุรักษ์กระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 26 มิ.ย.60 เวลาประมาณ15.00น. ตนได้ขณะที่กำลังวางแผนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการกลับกลุ่มบุคคลลักลอบตกปลากระเบนราหู
ขณะนั้นเองมีชาวบ้านแจ้งว่าพบ เฟสบุ๊คหนึ่ง (Benchawan Thiansungnoen) ไลน์สดนักท่องเที่ยวฝรั่งกำลังชักกระเย่อกลับปลาอยู่ ตน จึงสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ประมงจังหวัด ฝ่ายปกครอง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ทหารจากมลฑลทหารบกที่ 16 นำเรือเร็วไปตรวจสอบ แต่ไม่พบการตกปลากระเบน พบเพียงเรือก่อเหตุจอดอยู่หน้าบ้านริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ใกล้วัดท้องคุ้ง ตำบลสวนหลวง อำเภออัมพวา จึงเข้าไปตรวจสอบก็พบนายประทีป เต๋าทองคำ อายุ53ปี2.นายทวี สังชะกุล อายุ30ปี3.นายพนม อัสโม อายุ34ปี4.นายสำรวย กันตูม48ปี ที่อยู่ในภาพไลฟ์สดดังกล่าว แต่ไม่พบชาวต่างชาติ จึงสอบถามซึ่งทั้งหมดให้การยอมรับว่าเป็นคนที่อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวฝรั่งตามภาพจริง เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบอุปกรณ์ประมงและเรือแล้วพบว่าทั้ง 4 คนไม่มีใบในท้าย ส่วนเรือไม่ได้รับการอนุญาตจากกรมเจ้าท่า นอกจากนี้ยังพบลอบพับได้ หรือไอ้โง่หลายอันด้วย
จากการขยายผลตรวจหาสารเสพติดพบปัสสาวะสีม่วง 3 ใน 4 คน หนึ่งในนี้ อ้างว่าถึงบุคคลหนึ่ง(นายบอย) ว่าได้จัดทริปทัวว์และจ้างให้พานักท่องเที่ยวมาตกปลากระเบน รวมทั้งอ้างว่าการตกปลากระเบนครั้งนี้ เป็นการตกเพื่อวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง(รศ.สพญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ และอาจารย์ประจำคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ซึ่งได้รับอนุญาตจากหน่วยงานราชการแล้ว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบไปยังกรมประมง ก็พบว่าใบอนุญาตให้ตกปลากระเบนเพื่อทำวิจัยนั้น ได้ขาดอายุตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 ประกอบกับประกาศของจังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อปี พ.ศ. 2553 ห้ามจับปลากระเบนราหูด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ เพราะปลากระเบนราหูเหลือน้อยใกล้สูญพันธุ์
นายคันฉัตร กล่าวว่า จังหวัดสมุทรสงครามได้ประกาศ ห้ามจับปลากระเบนราหูในท้องที่จังหวัดสมุทรสงครามโดยเด็ดขาด โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2553 โดยนายประภาศ บุญยินดี เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้น ยกเว้นการทำเพื่อการวิจัย และได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีกรมประมง ขณะนี้ได้มอบให้ประมงจังหวัดในฐานะผู้เสียหายแจ้งที่ สภ.อัมพวา โดยมีพยานบุคคลที่จะยืนยันว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ลักลอบตกปลากระเบนโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ที่ผ่านมาชาวจังหวัดสมุทรสงครามได้ผลักดันการอนุรักษ์ปลากระเบนราหูมาโดยตลอด แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับระเบียบและวิธีการของกรมประมงต่อไป
นายบัณฑิต ป้านสวาท ผู้ประสานงานกลุ่มสมุทรสงครามจัดการตนเอง กล่าวว่า จังหวัดมีเครือข่ายดูแลการอนุรักษ์ธรรมชาติอยู่แล้ว โดยในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีเฟสบุ๊คหนึ่ง(Benchawan Thiansungnoen) ซึ่งเป็นเจ้าของบ่อตกปลาแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ได้ไลฟ์สดการตกปลากระเบนถึง7ครั้ง โดยมีกลุ่มชาวบ้าน 4 คนนี้ เป็นผู้ช่วยและอำนวยความสะดวก ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในการตกปลากระเบน จนได้ตัวปลากระเบน แล้วนำมาถ่ายรูปเซลฟี่ ซึ่งจากลักษณะของปลากระเบนที่พบมีเลือดไหลออกจากปาก มีรอยช้ำตามลำตัวและครีบ น่าเวทนา จากภาพและคลิปในfacebookแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการทำลักษณะเช่นนี้น่าจะไม่ใช่เพื่อการวิจัย แต่น่าจะเป็นการจัดทริปท่องเที่ยวโดยอ้างการวิจัยบังหน้าและเป็นการละเมิดประกาศจังหวัดสมุทรสงคราม ที่ห้ามตกปลากระเบนราหูอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดกระแสโซเชียล ล่าสุดเฟสบุ๊ค (Benchawan Thiansungnoen) ได้ลบภาพดังกล่าวออกไปจากเฟสแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานไว้หมด