
" เนื่องด้วย 2-3 วันมานี้ ผมต้องตอบคำถามกับ Clip VDO ชุดนี้ที่ปล่อยออกมา จากเพื่อนฝูงคนใกล้ชิดที่ถามกันมาหลายช่องทาง ด้วยความสงสัย บ้างด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ผมเลยขออนุญาตมาเขียนตอบและชี้แจงตรงนี้ถึงเพื่อนๆ ผมก่อนละกันครับ ก่อนอื่นเลย ต้องบอกว่าผมคือหนึ่งในทีมครีเอทีฟผู้ที่รับผิดชอบทำงานชิ้นนี้ และก็เป็นคนที่อยู่ในคลิปที่เปิดเรื่องมาทำหน้าเหยียดๆ นั่นแหละครับ ตอนได้โจทย์ครั้งแรก ผมไม่ได้ฟังแค่ในฐานะครีเอทีฟ แต่ผมฟังในฐานะคนเมืองคนหนึ่งที่ก็รู้สึกว่า น่าจะดีถ้าพื้นใจกลางเมืองที่คนมากมายอยู่อาศัยใช้ชีวิต จะมีสักพื้นที่ ที่มันจะมีประโยชน์เพื่อทุกคนจริงๆ เป็นพื้นที่คุณภาพดีๆได้รับการดูแลครบครันครบเครื่องไม่แพ้พื้นที่เชิงพาณิชย์ที่เบียดกันขึ้น มันเป็นภาพฝันในอุดมคติเลยครับ ในรูปแบบไหนเรายังไม่รู้ แต่ถ้ามีจริงๆก็ดี แต่ก็ไม่รู้ว่าคนอื่นๆอยากให้มีหรือเปล่า? ถ้าไม่มีใครอยาก..ก็จบไป หนังเรื่องนี้มันก็เหมือนทำโพลไปในตัว Q : แล้วถึงคำถามที่ถามกันมาเยอะที่สุด "มีนา"นี่จริงไหม? นี่หลอกลวง? A : ตอบนะครับ "ไม่มีจริง" มีนาเป็นแค่ตัวละคร คาแรกเตอร์ที่สร้างขึ้นในหนังโฆษณาที่เราเลือกจะนำเสนอแบบสารคดี ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ทุกคนที่ถามผมเข้ามาส่วนตัวก่อนหน้านี้ผมก็บอกหมดว่าเป็นเพียงโฆษณา เราไม่มีเจตนาจะให้ทุกคนเชื่อว่ามีนามีจริง เราก็ตั้งใจทำเพียงแบบนักโฆษณาที่จะหาวิธีเล่าเรื่องนี้ออกมายังไงให้มันแบกเนื้อหาสาระข้อมูลมหาศาลที่เป็นวิชาการแบบนี้ เแถมเป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับประเทศของเราไปจนจบเรื่อง แน่นอนเราทำสื่อออกมา เราก็อยากให้คนดูเยอะๆ เราก็อยากให้ไวรอล โดยเฉพาะเรื่องนี้ เพียงแต่เราก็ไม่ได้คิดว่ามันจะไปไกลขนาดนี้ จึงไม่ได้เตรียมที่จะตอบอะไรกับข่าวโซเชียลเลย ไม่ได้เตรียมคิดเอาไว้ เราก็เตรียมทีท่าไม่ถูกเหมือนกันครับ ว่าจะต้องเฉลยไหม แต่เขาเป็นตัวละครจะดูร้อนตัวไปหรือเปล่า ยอมรับว่าทำตัวไม่ถูกจริงๆในการรับมือแบบนี้ กลัวว่าลำพังตัวหนังสือเล็กๆ น้อยๆ จะต่อความยาวสาวความยืดหรือเบี่ยงประเด็นไปอีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เพราะเราคิดว่ามันเป็นเพียงโฆษณา เราไม่ได้มีความคิดเลยไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะที่จะเอาชนะใจด้วยการหลอกลวงให้เชื่อ ให้ไปลงชื่อง่ายๆแบบนั้น เพราะถ้าผมจะหลอกลวงให้ได้ยอดลงชื่อ ก็คงไม่ใส่โลโก้ OKMD ไว้ท้ายเรื่องให้มันมีคำถามขึ้นมา หรือแม้กระทั่งจะเอาตัวผมเองเข้าไปนั่งอยู่ในหนัง และยังมีอีกหลายๆจุดที่คนใน Social พยายามตั้งคำถามหลายๆ จุดในหนัง ซึ่งเราก็ไม่ได้หลบหลีกอะไรให้มันแนบเนียน หรือแม้กระทั่งน้องที่แสดงเป็นมีนา ถ้าเราจะหลอกจริงๆ น้องคนนี้คงใช้ชีวิตลำบากน่าดู ถ้าจะขอโทษ ก็คงต้องขอโทษที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิด แล้วต้องไปถกเถียงกัน อย่างที่บอกเราไม่ได้มีเจตนานั้นจริงๆครับ เราเพียงร้อยตามเรื่องราวที่เขียนไว้ เราทำด้วยเจตนาเท่านี้จริงๆ Q : แล้วทำไมต้อง วินมอไซค์ / เว้าอีสาน A : ในเนื้อหาคือเราต้องการคนที่เป็นตัวแทนคนทั่วๆไปในสังคม ด้วยสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ๆเฉพาะคนมีเงินจะใช้ได้เท่านั้น คนทุกคนต้องการพื้นที่นี้ จริงๆจะเป็นแม่ค้าก็ได้ เด็กนักเรียนก็ได้ เราลองกันหลายอาชีพ จนมาลงตัวที่ได้ยินข่าว วินมอไซด์ ที่ติด Wifi ให้คนใช้บริการฟรี เราก็รู้สึกว่าเราประทับใจ เออทุกอาชีพต้องการปรับตัวให้ได้ มันก็เข้ากับสถานที่แห่งนี้ที่อยากให้คนไม่ต้องไปดิ้นรนเรียนรู้เอง มันลงตัวในแง่การทำหนัง เราแค่ต้องการตัวละครสักตัว ที่แบกเนื้อหาเหล่านี้แล้วอย่างที่ว่ามา ให้คนอยากจะฟังมันจนจบ เรื่องHuman Deverlopment อยู่บนสำเนียงอีสาน ในแง่หนังมันน่าจะน่าสนใจมากกว่า เล่าด้วยนักวิชาการ Q : เรื่องดูถูกคนอีสาน A : ไม่มีเจตนาเลยครับ เป็นความตั้งใจเราอีกอย่างด้วยซ้ำ อย่างที่บอกสถานที่แห่งนี้เป้าหมายมันคือให้ทุกคนเข้าถึงความรู้ได้ ไม่ใช่เป็นของคนมีเงิน ที่เราอยู่ระบบความคิดการศึกษาแบบเดิมๆ ที่ไม่มีพื้นที่นอกหลักสูตรเพื่อพัฒนาคน การแสดงที่ดูถูกของคนเมืองในหนังเรื่องนี้เราก็พยายามแทรกเข้าไปให้เห็นย้อนกลับว่า มีนา เขาฉลาดกว่าเราเสียอีก เหมือนประโยคที่ว่า เป็นมอไซด์วินต้องโง่กว่าพวกพี่ด้วยเหรอ" การตั้งกลุ่มเพื่อนมีนาใน Change ก็เพียงเป็นพื้นที่แสดงพลังของคนภาคประชาชนว่าต้องการสิ่งใด แล้วด้วยระบบมันจับต้องได้เป็น DATA ในการรวบรวมมากว่าเก็บแค่ วิว แชร์ ยอด like เราคุยกันด้วยสายตาประชาชนที่ทุกคนก็อยากเห็นสถานที่ที่มีประโยชน์แบบนี้เกิดขึ้น ไอเดียนี้มันยังไม่เกิดขึ้นด้วยซ้ำ เขามาชวนเราด้วยว่าจะมาช่วยกันทำเรื่องแบบนี้ถึงจะไม่สำเร็จแต่อย่างน้อยก็ให้คนตื่นตัวและสนใจ ถ้าทุกคนจะตำหนิ ถ้าวิธีนำเสนอนี้แบบนี้ไม่ถูกใจใคร ก็ให้ตำหนิพวกผมที่พยายามนำเสนอไอเดียนี้ให้ลองดูกันสักตั้ง แล้วก็ขอโทษสำหรับคนที่ผิดหวังกับตัวมีนานะครับ ผมก็รู้สึกผิดหวังที่ได้ยินเสียงผิดหวังทุกที แต่ก็อย่าผิดหวังกับแนวคิดศูนย์การเรียนรู้แบบนี้เลยครับ อาจจะไม่ต้องถึงภาพฝันไว้ แต่ก็ให้มีพื้นที่สาธารณะดีๆ สักที่เพื่อลูกเพื่อหลานของเรา"