svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวบผัวโหดฆ่าฝังศพเมีย อ้างเมียติดเหล้าไม่ยอมเลิก เตะก้านคอตายคาที่ก่อนอำพรางศพ

15 มิถุนายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สมุทรปราการ - ตำรวจรวบตัวสามีมือฆ่าโหดภรรยาวัย 60 ก่อนนำศพไปฝังดินข้างบ้าน ขณะหลบหนีไปทำงานอยู่ที่อยุธยา

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15 มิถุนายน 2560 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธรรมมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล พ.ต.อ.สมชัย อินตาพวง พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบก. พ.ต.อ.ต่อพงษ์ ตันตระวาณิชย์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พ.ต.ท.ธงรบ แจ้งจิต รอง ผกก.สส. ได้ร่วมกันคุมตัวนายวิจิตร พันธุ์ภู่ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/291 ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาฆ่าและอำพรางศพนางสุรัก อุ้มญาติ ภรรยาวัย 60 ปี ซึ่งติดตามจับกุมตัวได้ที่ ริมคลองชลประทานสายท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ. พระนครศรีอยุธยา
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ภายหลังจากขุดพบศพและทราบว่าผู้ตายคือ นางสุรัก อุ้มญาติ จาการสอบสวนพยานแวดล้อม จึงเชื่อว่าฆาตกรที่ลงมือฆ่า น่าจะเป็นนายวิจิตร ซึ่งเป็นสามีใหม่ของผู้ตาย ที่อยู่กินกันมาประมาณ 2 ปี เนื่องจากได้หายตัวออกจากบ้านไปอย่างมีเงื่อนงำ และชาวบ้านยังบอกว่าชอบทำร้ายนางสุรัก ด้วยการทุบตีอยู่เป็นประจำ และบางครั้งยังต้มน้ำร้อนลวกนางสุรัก ผู้ตายจนได้รับบาดเจ็บมาหลายครั้ง จากแนวทางการสืบสวนทราบว่าหลังก่อเหตุนายวิจิตร ได้หลบหนี ไปทำงานอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ นำกำลังติดตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้
จากการสอบสวน นายวิจิตร ผู้ต้องหา ได้อ้างว่า ในขณะที่อยู่กินกับตน ผู้ตายมีอาการติดเหล้าอย่างหนัก นายวิจิตรจึงได้บอกผู้ตายหลายครั้งให้ผู้ตายหยุดกินเหล้าหรือดื่มให้น้อยลง แต่ผู้ตายก็ยังแอบออกไปดื่มเหล้าทุกวัน จนกระทั้งต้องใช้วิธีหักดิบขังผู้ตายไว้ในบ้าน จนทำให้ผู้ตายเกิดอาการแขนขาไม่แรง กระทั้งช่วงเย็นของวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตนได้ไปซื้อข้าวต้มมาป้อนผู้ตาย แต่ผู้ตายสำลักข้าวออกมา ทำให้ตนเองบันดานโทสะ ลงมือทำร้าย ด้วยการใช้กำปั้นชกไปที่ใบหน้าและลุกขึ้นใช้เท้าเตะเข้าที่ก้านคอผู้ตายไป 1 ครั้งจนผู้ตายแน่นิ่งไป ตนจึงได้เอานิ้วมาอังจมูกผู้ตายดูพบว่าผู้ตายไม่หายใจแล้ว และเชื่อว่าผู้ตายเสียชีวิต ด้วยความกลัวความผิดจึงได้เอาเสียมมาขุดดินที่ซอกกำแพงรั้วข้างบ้านก่อนนำร่างของผู้ตายมาฝังเอาไว้ และออกไปทำงานก่อสร้างตามปกติ จนศพเริ่มส่งกลิ่นและมีชาวบ้านสอบถาม ตนจึงได้ตอบไปว่า เป็นกลิ่นของสุนัขของตนที่เลี้ยงไว้มันตายจึงเอาไปฝังเอาไว้ข้างบ้าน จนช่วงเช้า วันที่ 13 มิถุนายน ระหว่างออกไปทำงาน ทราบข่าวว่า มีคนพบศพนางสุรัก จึงตัดสินได้หลบหนีไปทำงานรับจ้างเลี้ยงเป็ดอยู่ที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ นายวิจิตร ยังอ้างอีกว่า สาเหตุที่ทำให้มือเท้าหนัก เนื่องจากตนเองเคยเป็นนักมวยเก่า
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายวิจิตร เดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังบ้านที่พบศพ ซอยอยู่สุข 13 ถนนศรีนครินทร์ ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ โดยมีประชาชนและลูกชายของผู้ตายที่ทราบข่าวได้เดินทางมามุงดูเป็นจำนวนมาก และพยายามจะฝ่าวงล้อมตำรวจเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ และตะโกนสาปแช่งถึงความโหยเหี้ยม ของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ต้องเร่งชี้จุดที่เกิดเหตุก่อนคุมตัวนายวิจิตร กลับโรงพักและส่งตัวให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเพื่อสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

logoline