
12 พ.ค.60 - ที่ท้องสนามหลวง พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่ห้างบิ๊กซีจ.ปัตตานีว่า ขณะนี้เริ่มจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือภาคประชาสังคมในการแจ้งเบาะแสต่างๆ เพื่อให้คนไม่ดีในแผ่นดินหมดไป อย่างไรก็ตามกรณีที่มีนายกฯอบต.หนองจิกเกี่ยวข้องนั้น เราก็ต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ในการติดตามดูพฤติกรรมบุคคลต่างๆ
พล.อ.ทวีป กล่าวว่า ทางฝ่ายหน่วยงานความมั่นคงปรับยุทธวิธีในการรับมือผู้ก่อเหตุที่เปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติการว่า สำหรับงานสำคัญขณะนี้คือ ความเข้มข้นด้านการข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำในทุกครั้งที่มีการประชุมข่าวกรอง ในการประสานงานระหว่างหน่วยข่าวกรองทั้งหมดที่มีอยู่ต้องมีความแนบแน่น ให้แลกเปลี่ยนข้อมูลได้ในทันที เมื่อมีข่าวอะไรเข้ามา แล้วร่วมกันวิเคราะห์ส่ิงที่จะเกิดขึ้นคืออะไร
"สิ่งที่เห็นได้เด่นชัดจากยุทธวิธีในการก่อเหตุคือ ปล้นรถกระบะแล้วรีบนำมาก่อเหตุทันที ซึ่งเป็นความเปลี่ยนแปลงในยุทธวิธีที่เห็นได้ชัด ต่อไปนี้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงต้องรายงานสิ่งเหล่านี้ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงประชาชนในพื้นที่จะให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย" เลขาฯสมช. กล่าวและว่า ขณะนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่กำลังติดตามผู้ที่ต้องสงสัยเหล่านี้ เราทราบชื่อทั้งหมดแล้ว มีหลักฐานอยู่พอสมควร ฉะนั้นต้องดำเนินการตามกระบวนการให้ความยุติธรรมกับทุกคน ในเมื่อเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยก็ควรเข้ามารายงานตัว ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการจับกุม เพื่อนำเข้ากระบวนการสืบสวนสอบสวน ซึ่งจากการจับกุมจะมีการขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด อย่างไรก็ตามส่วนคนที่ถูกออกหมายจับแล้วคือนายมะกอเซ็ง หม้าแอ้ หนึ่งในคนร้ายที่ร่วมปฎิบัติการ เชื่อว่า ยังอยู่ในพื้นที่ไม่หลบหนีออกนอกประเทศแต่อย่างไร
เมื่อถามว่า นายกฯอบต.หนองจิกที่ถูกระบุว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุนั้น เกี่ยวข้องในลักษณะใด พล.อ.ทวีป กล่าวว่า เป็นลักษณะของคนที่วางแผน แต่ยังต้องเก็บรายละเอียดต่อไป
เมื่อถามว่า ฝ่ายความมั่นคงติดตามพฤติกรรมบุคคลดังกล่าวมาตลอดใช่หรือไม่ พล.อ.ทวีป กล่าวว่า พอมีพฤติกรรมขึ้นมาเราก็ต้องติดตาม แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่พบว่า มีพฤติกรรม ดังนั้นทุกภาคส่วนถือว่า มีส่วนสำคัญที่จะให้เบาะแสในสิ่งเหล่านี้ ถ้าเห็นว่า มีความเคลื่อนไหวใด ๆที่ผิดปกติ เบาะแสจากประชาชนจะช่วยเจ้าหน้าที่รัฐในการติดตามได้ดีที่สุด