
สอบถาม นางสายพิน เจนภูมิเดช อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1014 ม.1 ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หนึ่งในเด็กสาวที่ถูกนำมาฝึกหัดให้เป็นผู้ช่วยช่างปั้นหุ่น ปฏิมากรรมปูนปั้นทั้งหลายเหล่านี้ ตั้งแต่เมื่อครั้งเธอยังอยู่ในวัย 18-19 ปี ได้เล่าว่า พระอาจารซ่วน ปัญญาธโร เจ้าของสำนักสงฆ์แห่งนี้ ท่านได้มรณะภาพไปนานแล้ว ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2536 ด้วยวัย 63 ปี สำนักสงฆ์แห่งนี้ซึ่งปลูกสร้างอยู่บนพื้นที่ดินส่วนตัว ซึ่งเป็นสมบัติของนายวัน ผู้เป็นบิดาของพระอาจารย์ เนื้อที่ดินประมาณ 2 ไร่ จึงถูกปล่อยทิ้งร้างมาเป็นเวลานานถึง 24 ปีเต็มแล้ว สภาพพื้นที่จึงดูรกร้างและหุ่นปั้นตามจินตนาการ และวรรณคดีต่างๆ จำนวน 242 ตน จึงได้ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้จนมีต้นไม้และเถาวัลย์น้อยใหญ่ขึ้นรกปกคลุม จนดูน่าสะพรึงกลัวสำหรับผู้คนที่ได้เข้ามาพบเห็น
โดยหุ่นปั้นในสำนักสงฆ์ร้างของพระอาจารย์ซ่วนแห่งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นหุ่นปั้นตามวรรณคดีไทย และหุ่นปั้นทางศาสนาต่างๆ ทั้งไทย จีน อินเดีย เช่น หุ่นปั้น ในพุทธประวัติ หุ่นปั้นเจ้าแม่กาลี ในศาสนาพราหมณ์ ของอินเดีย หุ่นปั้น 8 เซียน ของจีน และเจ้าแม่กวนอิม ตลอดจนรูปปั้นยักษ์จากวรรณกรรมต่างๆ เปรตอสูรกาย จากเรื่องพระอภัยมณี นางสิบสอง และขุนโจรที่มีชื่อเสียงในอดีต อย่างมากมายหลายร้อยชนิด เนื่องจากท่านเป็นคนชอบสร้างหุ่นช่วยเหลือคนเพื่อสะเดาะเคราะห์ให้แก่ผู้คนที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ และหุ่นทุกตัวที่สร้างขึ้นจะมีส่วนผสมของกระดูกผีตายโหงตามวิชาอาคมที่ท่านได้เรียนมา และมีการตั้งโต๊ะทำพิธีเซ่นไหว้ในทุกๆ ตนที่สร้างขึ้น จึงยิ่งทำให้ป่าหุ่นปูนปั้นแห่งนี้ยิ่งดูขลึงขลังวังเวง จนน่าสะพรึงกลัวและไม่มีใครกล้าย่างกายหรือเดินผ่านเข้ามาใกล้