จุดแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯเข้าทำการตรวจค้นเป็นอาคารพานิช ขนาด 4 ชั้น เลขที่ 104 หมู่บ้านเศรษฐกิจ ซอย 2 ถ.หมู่บ้านเศรษฐกิจ แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. พบด้านล่างเปิดเป็นที่ทำการคลินิกชื่อว่าหมู่บ้านการแพทย์ มี นางสายหยุด ฤทธิ์สำเร็จ อายุ 47 ปี และ น.ส.เตือนใจ พรหมเจดีย์ อายุ 48 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่คลินิกดังกล่าว ทั้งนี้จากการตรวจค้นภายในคลีนิกดังกล่าวพบภายในห้องจ่ายยาชั้น 2 ของตัวอาคาร มียาเม็ดที่ใช้ในการทำแท้งไม่ทราบชื่อ ทั้งแบบชนิดกินและสอด ซุกซ่อนอยู่ภายในตู้เก็บยาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งจากการตรวจสอบห้องต่างๆภายในตัวอาคารยังพบเครื่องมืออุปกรณ์ตรวจครรภ์อีกอีกหลายรายการ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมกับควบคุมตัว นางสายหยุดและน.ส.เตือนใจ ส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ดำเนินการตามกฎหมาย
อีกจุดเป็นอาคารพานิชสูง 3 ชั้น เลขที่ 97/2 ริมถนนสะแกงาม ปากซอยสะแกงาม 7 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ด้านล่างเปิดเป็นคลินิกเวชกรรมชื่อว่า "สะแกงามคลินิกเวชกรรม" โดยมี นายณัฐวัสส์ ดวงดี แสดงตัวเป็นผู้ดูแล และยังคงเปิดให้ทำการตามปกติ ทั้งนี้จากการตรวจค้นภายในห้องจ่ายยาชั้น 2 ของตัวอาคารพบยาขับเลือดไซโตเทค(cytotec) ชนิดสอด ซึ่งเป็นยาสำหรับไว้ใช้ในการทำแท้งจำนวน 2 กล่องมีตัวยาชนิดดังกล่าวบรรจุอยู่แผงใส่ยาภายในกล่องจำนวนรวม 162 เม็ด นอกจากนี้จากการตรวจสอบภายในห้องด้านในบริเวณชั้น 2 ของตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ยังพบเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการตรวจครรภ์จำนวน 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางพร้อมกับควบคุมตัวนายณัฐวัสส์ ส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบสวน นายณัฐวัสส์ ให้การว่า เป็นผู้นำยาดังกล่าวมาจำหน่ายให้กับกลุ่มหญิงสาววัยรุ่นจริง โดยตนได้สั่งซื้อยาชนิดดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ขายยาเฉพาะทาง ในราคา 5,500 บาท ก่อนจะนำมาขายต่อให้กับลูกค้าในราคา 6 พันบาท โดยก่อนที่จะทำการจำหน่ายยานั้นก็จะทำการอุลตร้าซาวน์ตรวจท้องก่อน หากพบว่าอายุครรภ์เกินกว่า 6 เดือน ก็จะแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตามปกติ
ด้าน พ.ต.ท.กิตติเมศร์ กล่าวว่า สำหรับการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทั้ง 2 จุดในวันนี้(26 เม.ย.) สามารถทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 3 ราย พร้อมกับยาสอดทำแท้งจำนวนมาก ซึ่งการเข้าทำการตรวจค้นและจับกุมตัวดังกล่าวนั้นสืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเข้ามาว่าคลีนิกหมู่บ้านการแพทย์ ภายในหมู่บ้านเศรษฐกิจ นั้นมีการลักลอบทำแท้งให้กับหญิงสาววัยรุ่นในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการส่งสายลับเข้าติดต่อ กระทั่งพบว่ามีการกระทำผิดดังกล่าวจริง ซึ่งเป็นในลักษณะของการจำหน่ายยาสอดทำแท้งให้กับลูกค้า แต่หากผู้ที่มีอายุครรภ์มากกว่า 2 เดือนขึ้นไปแต่อยากจะทำแท้งเอาเด็กออก ก็จะแนะนำให้ไปติดต่อกับทาง"สะแกงามคลินิกเวชกรรม" เจ้าหน้าที่จึงได้ขยายผลนำกำลังเข้าทำการตรวจค้นดังกล่าว
พ.ต.ท.กิตติเมศร์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบใบอนุญาตของคลีนิก ทั้ง 2 แห่ง พบว่าเป็นชื่อของ น.พ.ดำเกิง บูรณินทุ เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินกิจการทั้ง 2 แห่ง และมีการเปิดให้บริการมานานนับ 10 ปี ซึ่งจากการสอบถามผู้ที่อยู่ภายในคลินิกให้การว่า น.พ.ดำเกิง นั้นมีอายุมาก สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง จึงไม่ค่อยได้เข้ามาดูแลคลินิกทั้ง 2 แห่งในช่วงนี้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า น.พ.ดำเกิง นั้น มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการลักลอบจำหน่ายยาสอดทำแท้งของกลางที่ตรวจยึดนี้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา " ประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตและเป็นผู้ดำเนินการไม่ควบคุมและดูแลปล่อยให้บุคคลอื่นมิใช่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และข้อหา ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้จดทะเบียนและได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525) แก่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ก่อนส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ นพ.ธงชัย กล่าวว่า ในสวนของ น.พ.ดำเกิง ซึ่งมีชื่อเป็นผู้ถือใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลและเป็นหมอที่ตรวจคนไข้ของคลีนิกทั้ง 2 แห่ง ดังกล่าวนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะส่งเรื่องต่อให้กับทางแพทย์สภาฯทราบเรื่อง พร้อมกับพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องหรือผิดจริงก็จะมีบทลงโทษตามมา ซึ่งโทษสูงสุดคือการสั่งเพิกถอนใบอนุญาตวิชาชีพและใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล