svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

จับแก๊งค้า "ไอซ์" ข้ามชาติข่ายใหญ่สุด เงินหมุนพันล้าน ยึดทรัพย์ 70 ล้าน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 เมษายน ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วย นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส. และ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการตามยุทธการบูรณาการตัดวงจรทางการเงินเครือข่ายยาเสพติดครั้งที่ 5/2560 "เครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ" ตามแผนปฏิบัติการชัยยะ สยบไพรี 60/3 ในการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 9 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 คน ยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า สำหรับปฏิบัติการตามยุทธการบูรณาการตัดวงจรทางการเงินเครือข่ายยาเสพติดครั้งที่ 5/2560 "เครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ" เป็นการดำเนินการร่วมกันของ 10 หน่วยงาน เช่น ป.ป.ส. กรมศุกากร ดีเอสไอ กรมพัฒนาธุรกิจ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อร่วมกันทำลายเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้กฎหมายหลายตัวเพื่อจัดการกับเครือข่ายครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการในครั้งนี้เรามีเป้าหมายทั้งหมด 9 จังหวัด รวม 54 จุด ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดเราได้ทำการสืบสวนสอบสวนมาแล้ว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 ทาง บช.ปส.ได้ทำการจับกุม นายชาง คิม ซุย(Mr.Chang Kim Sui) และ นายลิม เยียน ฮูล (Mr.Lim Yean Hool) ผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย พร้อมของกลางยาไอซ์ 282 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเราได้มีการดำเนินการร่วมกันมาโดยตลอด
ด้าน พล.ต.ต.ศุภกิจ กล่าวว่า จากการสืบสวนพบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญชาวไทย มาเลเซีย และไต้หวัน จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดจนสามารถออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายในข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้เพิ่ม 4 ราย คือ 1.นายเซียง หมี่ ซื่อ (Mr.Chang Mi Hsu) หรือ เก็กกอ หรือ เถ้าแก่ภาคเหนือ หรือ จิมมี่ ชาวไต้หวัน ถูกจับกุมได้ที่ จ.เชียงใหม่ 2.นายตัน ฮัน เซียง(Mr.Tun Hun Seong) หรือ นายอาตัน ชาวมาเลเซีย ถูกจับกุมได้ที่หาดใหญ่ 3.น.ส.วิภารัตน์ การดี ชาวไทย ถูกจับกุมได้ที่จ.เชียงใหม่ และ 4.นางวลัพรรณ เพ็ชรพงษ์ หรือ เจ้ฟ่ง หรือ ฟ่งเจี่ย ชาวไทย จับกุมได้ที่ จ.เชียงราย อีกทั้ง เราทราบกันดีว่า มีการขนยาเสพติดผ่านมายังประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาทางภาคเหนือของไทย ลงไปสู่พื้นที่ภาคใต้ ก่อนส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย
พล.ต.ต.ศุภกิจ กล่าวอีกว่า จากการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน สามารถติดตามยึดอายัดทรัพย์สินได้ 36 รายการ ประกอบด้วย เงินสดทั้งสกุลไทยและต่างประเทศ กว่า 30 ล้านบาท เงินฝากในบัญชีธนาคาร 17 บัญชี มูลค่ารวม 7 ล้านบาท บ้าน 3 หลัง รถยนต์ 2 คัน ทองรูปพรรณและเครื่องประดับ 2 รายการ และทรัพย์สินอื่นๆ อีก 11 รายการ ส่วนยาไอซ์ที่สามารถจับกุมได้นั้น จากการสอบสวนทราบว่าเป็นของ นายตัน ซึ่งอาศัยอยู่ที่หาดใหญ่ โดยมีการลำเลียงยาใส่รถเซฟ เพื่อส่งไปขายยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งทำมาแล้วหลายครั้ง แต่ละครั้งจะขนกันครั้งละเป็นร้อยกิโลกรัม ซึ่งผู้ต้องหา 2 รายที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้เป็นผู้ซัดทอดว่า รับยาไอซ์มาจากนายตัน ทั้งนี้จากการสืบสวนยังพบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีการฟอกเงิน โดยการเปิดบริษัทต่างๆในพื้นที่ภาคใต้ อีก 16 บริษัท เป็นธุรกิจประเภทโรงแรม ปล่อยเงินกู้ และสถานบันเทิง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด เพื่อดำเนินการต่อไป
ขณะที่ พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า เครือข่ายไอซ์ข้ามชาตินี้เป็นรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยพบว่ามีเงินหมุนเวียนหลายพันล้านบาท ทั้งในและนอกประเทศ และมีบุคคลหลายอาชีพทั้งคนไทยและต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้จำนวนมาก ส่วนผู้บงการรายใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าตอนนี้อยู่ในประเทศ หรือต่างประเทศ อย่างไรก็ตามเครือข่ายดังกล่าวยังมีความเชื่อมโยงกับ นายไซซะนะ แก้วพิมพา และ นายสีสุก ดาวเฮือง สองผู้ต้องหาชาวลาว ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้อีกด้วย ขณะเดียวกันหลังจากนี้ บช.ปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการขยายผล เพื่อติดตามจับกุมและยึดทรัพย์ของผู้กระทำความผิดต่อไป
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สมหมาย ยังเปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีเครือข่ายของ นายไซซะนะ ว่า มีหลักฐานแน่ชัดแล้ว หลังตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยพบว่ามีศิลปินดาราเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้ คนพวกนี้ใช้ชีวิตสุขสบายมามากพอแล้ว ถึงเวลาต้องกินข้าวร้อนนอนคุกเสียที
ขณะที่ นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า การจับกุมยาไอซ์ 282 กิโลกรัม เมื่อปี 2559 จึงได้มีการสืบสวนสอบสวน กระทั่งจับกุมได้ดังกล่าวนั้น เราใช้ระยะเวลาในการดำเนินการติดตามเป็นเวลา 1 ปี ก่อนนำไปสู่การเข้าตรวจค้น 9 จังหวัด 54 จุด ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มีการออกคำสั่งเกี่ยวกับการบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด หลังจากนี้เราจะขยายผลต่อไป ซึ่งเมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา ก็ได้เข้าไปเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมมา ซึ่งจะให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมถึงกฎหมายของกรมสรรพากรด้วย