svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ครอบครัวผู้ตายเหตุอุโมงค์ถล่มที่เชียงใหม่ ร้องขอความเป็นธรรม

ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากกรณีหินถล่มในอุโมงค์ผังน้ำ แม่งัด แม่กวง ร้องขอความเป็นธรรม จากสภาทนายความจังหวัดเชียงใหม่ ให้เข้ามาดูแลคดี หลังได้รับเงินเยียวยาเพียง 300,000 บาท และเงินประกันชีวิต 200,000 บาท โดยรับแจ้งจากบริษัทว่าหากต้องการเพิ่มเติมให้ส่งหนังสือเข้ามา

เมื่อเวลา 9.40 น. วันที่ 7 เมษายน 2560 ที่ ห้องประชุมปริญญา นุตาลัย ภาควิชาธรณีวิทยาลัย คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัดแถลงข่าว "อุโมงค์แม่งัด แม่กวงถล่ม : ประมาทหรือเหตุสุดวิสัย โดยมี ผศ.ดร. มนูญ มาศนิยม : หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และวัสดุคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, ดร. อรรถกิจ อาสาฬห์ประกิต : รองประธานคณะกรรมการฝ่ายกิจกรรมในประเทศ คณะกรรมการงานก่อสร้างใต้ดินและอุโมงค์, ดร. ธนู หาญพัฒนพานิชย์: สมาคมธรณีวิทยาแห่งประเทศไทย
จากกรณีหินถล่มในอุโมงค์ผันน้ำแม่งัด-แม่กวง เป็นเหตุให้นักธรณีวิทยาเสียชีวิต 2 รายคือ นายปรัชญาวัต วสุอนันต์ และ นายปฐมพร ศิริวัฒน์ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งข่าวที่ออกมาในช่วงของการเกิดเหตุมักใช้ข้อความว่าเป็นเหตุสุดวิสัย และนักธรณีวิทยาเข้าไปในอุโมงค์เร็วเกินไป รวมทั้งกล่าวอ้างถึงหน้าที่ของนักธรณีวิทยาว่า เป็นผู้ดูแลควบคุมการออกแบบค้ำยันและความปลอดภัยในการก่อสร้างอุโมงค์ ความเป็นจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีรายละเอียดดังนี้
การก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำแม่งัด-แม่กวง ตามโครงการเพิ่มปริมาณนำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงที่เกิดเหตุ เจ้าของงานคือ กรมชลประทาน ได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อควบคุมงาน ประกอบด้วย บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท พี แอนด์ ซี เมเนจเมนต์ จำกัด บริษัทสามารถ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนส์ จำกัด และ บริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัด โดยมี บริษัทที่รับจ้างก่อสร้างคือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จ้ากัด (มหาชน) ตามสัญญาเลขที่ กจ.26/2558 (กสพ.) ลงวันที่ 10 มีนาคม 2558 ดำเนินการก่อสร้างโดยวิธีเจาะระเบิด (Drill & Blast) ซึ่งการก่อสร้างจะต้องท้างานตามขั้นตอนที่ออกแบบไว้
ตำแหน่งที่เกิดการถล่มของหินมาทับนักธรณีวิทยา คือ ต้าแหน่งที่ 635 เมตร ซึ่งอยู่ระหว่างการเจาะระเบิดไปแล้ว จ้านวน 3 รอบ คือรอบที่ 630 ถึง 633 เมตร รอบที่ 633 ถึง 636 เมตร และรอบที่ 636 ถึง 639 เมตร ซึ่งตามการออกแบบที่ได้ระบุไว้ สำหรับการเจาะระเบิด รอบที่ 636 ถึง 639 เมตร อุโมงค์ส่วนที่เกิดเหตุ จะต้องได้รับการค้ำยัน เรียบร้อยแล้ว แต่จากรายงานการก่อสร้างและภาพถ่ายที่ได้ถ่ายไว้ตามแนวอุโมงค์ทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังจากเกิดเหตุไปแล้ว แสดงให้เห็นความจริงว่า อุโมงค์ที่มีการเจาะระเบิดไปแล้ว รอบที่ 630 ถึง 633 เมตร และ รอบที่ 633 ถึง 636 เมตร ไม่ได้มีการทำค้ำยันที่สมบูรณ์แบบ
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจนมีผู้เสียชีวิต นางเพ็ญจันทร์ วสุอนันต์ แม่ของนายปรัชญาวัต วสุอนันต์ นักธรณีวิทยาที่เสียชีวิต กล่าวว่า ในช่วงแรกได้รับการติดต่อจากคือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ว่าจะรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ได้รับเงินค่าทำศพมาเพียง 15,000 บาทเท่านั้น และไม่มีการช่วยเหลือในเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติม หลังจากนั้น เมื่องานศพเสร็จก็ไม่ได้รับการติดต่อกับทางบริษัท จนกระทั่งเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2560 ได้นัดเจรจากับทางบริษัท ที่สภ.แม่แตง โดยทาง บริษัทได้ส่งนิติกรมาจากกรุงเทพฯ เพื่อเจรจา พร้อมแจ้งว่าจะมีเงินเยียวยาให้ 300,000 บาท และมีเงินประกันชีวิตของผู้เสียชีวิตอีก 200,000 บาท และจะไม่รับผิดชอบใดๆ อีก พร้อมทั้งแจ้งว่าหากต้องการเพิ่มเติมจากจำนวนที่แจ้งไว้ ให้ทำหนังสือไปยังโครงการ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่สามารถรับได้ หลังจากนี้จะปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายโดย ได้ยื่นหนังสือถึงสภาทนายความจังหวัดเชียงใหม่ ให้เข้ามาช่วยดูแลในเรื่องดังกล่าวนี้ เพื่อให้ครอบครัวของเด็กที่เสียชีวิตทั้งสองครอบครัวได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนายธีรเพชร บุญธง นักธรณีวิทยา บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาในการควบคุมงาน กล่าวว่า เหตุการณ์ในวันนั้นได้เข้าไปยังจุดที่เปิดใหม่ ผู้เสียชีวิตได้ชี้ให้ดูว่าบริเวณดังกล่าวมีรอยร้าวเกิดขึ้น จึงได้บอกว่าน่ากลัวหากไม่ลงวันนี้พรุ่งนี้ก็อาจจะลงมาได้ และเริ่มกังวลว่าอาจจะถล่มลงมาได้ แนะนำให้ทำการขันตัวยึดให้แน่นก่อน หลังจากเดินออกมาประมาณ 5 เมตร หลังจากนั้นก็เกิดเหตุถล่มลงมา ส่วนตัวเองยังคงทำงานตามปกติ ไม่ได้มีปัญหาในการทำงานแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นทำให้มีความเข้มงวดมากขึ้น ในความคิดเห็นส่วนตัวในจุดที่เกิดเหตุถึงแม้ว่าจะทำตามขั้นตอน และตามแบบทุกอย่างแล้ว หากเห็นว่ามีรอยร้าวเกิดขึ้น ก็ไม่ควรที่จะเข้าไป ต้องถอยออกมา เพราะหากร้าวแล้วยังไงก็ต้องหล่นลงมา