svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ทางชีวิตก่อนเข้าคุก ของ "จุฑามาศ ศิริวรรณ"

วิบากกรรมทำอะไรไว้ ถ้ากฎหมายตามตัวเจอก็ต้องก้มหน้ารับ อย่าง จุฑามาศ ศิริวรรณ กับคดีรับเงินสินบน หลายสิบล้าน ก็กลับมาทวงคืนความจริง!


คนไทยรู้กันแล้วว่า การต้องโทษในคดีรับเงินจำนวน 1.8 ล้านดอลลาร์ (ราว 60 ล้านบาท) จากสองสามีภรรยานักสร้างภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ด เพื่อให้ทั้งคู่ได้จัดงานนิทรรศการภาพยนตร์กรุงเทพฯ นั้น เกิดขึ้นในช่วงที่ จุฑามาศ ศิริวรรณ มีตำแหน่งเป็นผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

แต่คนไทยยังอาจรู้จักผู้หญิงคนนี้ไม่หมดว่า อีกด้านหนึ่ง เธอก็นับว่าเป็น เวิร์กกิ้งวูแมน ที่ลุยงานมาอย่างไม่แพ้ชายอกสามศอก

จุฑามาศ ศิริวรรณ เกิดเมื่อ 4 พฤษภาคม 2490 มีพี่สาวคือ รศ.พญ.คุณหญิงพึงใจ งามอุโฆษ แพทย์ชื่อดังที่เชี่ยวชาญทางหัวใจและหลอดเลือด (เสียชีวิต 27 ก.ย. 2548)

ชีวิตครอบครัวของอดีตผู้ว่าการ ททท. คนนี้ เธอเคยสมรสกับ จิตติพล ปฏิทัศน์ (หย่า) มีบุตรด้วยกันคนเดียว คือ จิตติโสภา ศิริวรรณ ที่เป็นสะใภ้ตระกูล ทัพพะรังสี

หรือจะเรียกอีกนัยหนึ่งว่า จุฑามาศ เป็นแม่ยายของ กฤตพน ทัพพะรังสี หรือโก้ บุตรชายคนโตของ กร ทัพพะรังสี อดีตนักการเมืองชื่อดังของเมืองไทย อดีตรองนายกฯ ในรัฐบาลทักษิณ พรรคไทยรักไทย ก่อนจะย้ายกลับพรรคชาติไทย พรรคที่เคยอยู่มาแต่เดิม

ว่ากันว่าความรักของลูกๆ มีที่มาจากการที่ จุฑามาศ นั้นเป็นเพื่อนร่วมรุ่นมหาวิทยาลัยกับ ระพีพรรณ ภรรยาของ กร ทัพพะรังสี นั่นเอง

เช็กประวัติทางการศึกษา ของอดีตผู้ว่าการ ททท. คนนี้ ไม่ธรรมดา เพราะเธอจบชั้นมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนสตรีวิทยา จบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ สาขาการคลัง (คณะเศรษฐศาสตร์ในปัจจุบัน) จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จากนั้นไปคว้าปริญญาโท ด้านการเงิน ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และยังศึกษาในวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน รุ่นที่ 9 หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ปรอ.9 อีกด้วย

เส้นทางการทำงาน เธอเริ่มเข้ารับราชการตั้งแต่ปี 2517 ที่สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้นก็ย้ายมาสังกัดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยเริ่มจากเป็นหัวหน้างานงบประมาณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ไต่ระดับขึ้นมาเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายประสานแผนการท่องเที่ยว มาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายประสานแผนการท่องเที่ยว มาปี 2537 ได้เป็น รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฝ่ายบริหาร

กระทั่ง 10 กันยายน 2545 ขึ้นเป็น ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ดำรงตำแหน่งจนครบวาระ 4 ปี โดยหมดวาระเมื่อ 12 กันยายน 2549 ซึ่งก็ถือเป็นการเกษียณอายุราชการ

หากย้อนไปดู จะเห็นได้ว่า ช่วงที่จุฑามาศมีเส้นทางอาชีพที่รุ่งโรจน์อยู่ใน ททท. เป็นช่วงที่ประเทศไทยมี ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

และเธอยังถือเป็นผู้ว่าการ ททท. คนแรกของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้น 3 ตุลาคม 2545 ในการปฏิรูประบบราชการสมัยทักษิณ

โดย จุฑามาศ อยู่ในช่วงที่เปลี่ยนผ่านรัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ ถึง 3 คนด้วยกัน ตั้งแต่ สนธยา คุณปลื้ม ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ 3 ตุลาคม 2545 ถึง 10 มีนาคม 2547

จากนั้นเป็น สมศักดิ์ เทพสุทิน ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ 10 มีนาคม 2547 ถึง 2 สิงหาคม 2548 ตามด้วย ประชา มาลีนนท์ ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ 2 สิงหาคม 2548 ถึง 19 กันยายน 2549 (วันที่เกิดรัฐประหารโดย คมช. ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่า ประชา มาลีนนท์ อยู่ที่ไหน)

ช่วงที่ ประชา ขึ้นเป็นเจ้ากระทรวงนี่เอง ที่ ททท.ได้งบประมาณที่รัฐจัดสรรมาให้ ถึง 1,500 ล้านบาท !!

นอกจากนี้ หลายคนยังพูดไปถึงว่า จุฑามาศ ก็คือหนึ่งในเครือข่ายทักษิณ ที่มาจากรังใหญ่ วปรอ. หรือ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน

โดยหลังยุค ปรอ.8 ภาคเอกชนที่ผนึกกำลังกับ วปอ.รุ่น 38 ที่มีข้าราชการระดับสูง นักการเมือง และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ อีกทั้งนักธุรกิจชั้นนำมากมาย เช่น ดร.ทนง พิทยะ, ประยุทธ มหากิจศิริ, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคนอื่นๆ อีกคับคั่ง

ถัดมาปี 2539 ใน "ปรอ. 9" ยังมี บรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่เขยทักษิณ, กรพจน์ อัศวินวิจิตร, และ จุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการ ททท. คนนี้นี่เอง

นอกจากนี้ หากย้อนดูดีๆ ช่วงปี 2546 จุฑามาศ ในฐานะ ผู้ว่าการ ททท. เคยมีชื่อเป็นผู้รับผิดชอบโครงการอีลิทการ์ด จำหน่ายบัตรสมาชิกให้นักท่องเที่ยว โดยเธอถือหุ้น 100 เปอร์เซ็นต์ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) ที่รัฐบาลทักษิณโหมกระพือเสียใหญ่โต แต่ภายหลังเกิดข่าวฉาวเรื่องทุจริต (ปัจจุบันยังเป็นรัฐวิสาหกิจในกระทรวงท่องเที่ยวฯ อยู่)

ด้วยสายสัมพันธ์ ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน และที่โรงเรียน แม้ว่า จุฑามาศจะหมดสิ้นเส้นทางราชการไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเส้นทางการเมืองจะรออยู่ แถมว่ากันว่า ก่อนหน้านั้น เธอยังเคยถูกทาบทามจากพรรคกการเมืองมีชื่อติดโผคณะรัฐมนตรีอีกด้วย

แต่ถ้าจะเอากันจริงๆ ชีวิตการเมืองของเธอเกิดขึ้นแค่ช่วงสั้นๆ วันเดียว

เพราะเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2550 เธอสมัครเข้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ลงสมัคร ส.ส.แบบสัดส่วน ลำดับที่ 6 ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ และยังถูกวางตัวเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรค

แต่วันรุ่งขึ้น 20 ธันวาคม 2550 เพียงแค่วันเดียวเท่านั้นที่จุฑามาศตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกจากพรรค บอกว่า ไม่อยากให้ภาพลักษณ์ของพรรคเสียหาย จากข่าวฮั้วประมูลและเรียกรับสินบนมูลค่ากว่า 65 ล้านบาท จากนักธุรกิจต่างชาติที่ได้สิทธิ์จัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ (Bangkok Film Festival) ในปี 2545-2550

เรียกว่าเส้นทางการเมืองของเธอปิดฉากลงทันที แบบมาเร็วเคลมเร็ว จนวันนี้เธอและลูกสาว ซึ่งก็คือ จิ๊บ จิตติโสภา ที่ต้องติดบ่วงไปพร้อมกัน โดยนอกจากศาลตัดสินจำคุกผู้เป็นแม่ในคดีดังกล่าวเป็นเวลา 66 ปี ฝ่ายบุตรสาวก็โดนด้วย 44 ปี พร้อมสั่งริบทรัพย์สินกว่า 62 ล้านบาท และได้ประสานสหรัฐ อายัดเงินที่ฝากไว้ในหลายประเทศกลับมาสู่ไทยอีกด้วย

อีกบทเรียนหนึ่งของ "ข้าราชการประจำ" ที่เคยรุ่งเรืองกับการเมือง และวันหนึ่งก็ต้อง "สังเวย" ให้แก่การเมือง

"19 ธันวาคม 2550 เธอสมัครเข้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ลงสมัคร ส.ส.แบบสัดส่วน ลำดับที่ 6 ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ และยังถูกวางตัวเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรค แต่วันรุ่งขึ้น 20 ธันวาคม 2550 เพียงแค่วันเดียวเท่านั้นที่จุฑามาศตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกจากพรรค บอกว่า ไม่อยากให้ภาพลักษณ์ของพรรคเสียหาย จากข่าวฮั้วประมูลและเรียกรับสินบนมูลค่ากว่า 65 ล้านบาท"