
โดยหลังม็อบเลิก "สุเทพ" ก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่ร่วมปี จากนั้นเมื่อสึกมา เขาก็คล้ายะจหายไปจากการเมือง แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว เขายังเคลื่อนไหวอยู่เป็นระยๆ โดยเฉพาะในประเด็นที่เป็นคุณกับผู้กุมอำนาจในปัจจุบัน แม้เบื้องหน้าเขาบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่มือระดับ "สุเทพ" แทบไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะวางมือจริงๆ และด้วยคอนเนคชั่นระดับเกรดเอ ทำให้ทุกคนยังต้องจับตามองเขาอยู่ทุกฝีก้าว และครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อเขาเปิดตัว "โปรเจคท์ยักษ์" ภายใต้ชื่อ "โรงเรียนอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ" โดยระบุว่าพร้อมที่จะเปิดให้การศึกษาในปีการศึกษา 2560 ที่จะถึงนี้ โดยตั้งอยู่ที่ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งชื่อนี้ก็ได้มาจากชื่อ "พระภาวนาโพธิคุณ" อดีตเจ้าอาวาสวัดน้ำไหล สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ย้อนหลังไปไม่ถึงปีคือวันที่ 23 พ.ค. โครงการแห่งนี้เพิ่งวางศิลาฤกษ์ เร็วเหมือนเนรมิต ปัจุบันอาคารจำนวนมากถูกก่อสร้างเกือบจะเสร็จสมบูรณ์ และเริ่มสัมภาษณ์นักศึกษาเพื่อเป็นรุ่นแรกของการเรียนการสอนแล้ว เว็บไซต์ของมูลนิธิมวลมหาประชาชนระบุวัตถุประสงค์ของการก่อสร้างโรงเรียนว่า เพื่อผลิตบุคลการที่มีความรู้ทางวิชาชีพต่างๆ ให้มีความชำนาญในวิชาชีพนั้นๆ อย่างแท้จริง ควบคู่ กับการฝึกฝน ปฏิบัติธรรมะอย่างเคร่งครัด ต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 5 ปี ซึ่งมีการระบุว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของการเริ่มต้นปฏิรูปการศึกษาของประเทศ ทั้งนี้โรงเรียนจะเปิดสอนหลักสูตร ปวช. และ ปวส. ในสาขาวิชาการท่องเที่ยว การโรงแรม การบัญชี เลขานุการ คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ภาษาต่างประเทศ (เน้นภาษาจีน และภาษาอังกฤษ) และการทำอาหาร เพื่อผลิตบุคลากร ป้อนภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นการเฉพาะ โดยการเรียนการสอนจะเป็นไปในลักษณะที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่นักเรียนต้องเข้าอยู่เป็นนักเรียนประจำที่หอพัก เพราะจะต้องมีการทำวัตรเช้าเย็น ด้วย จากวิดีโอการนำชมของ "สุเทพ" จะเห็นได้ว่าโรงเรียนดังกล่าวมีขนาดใหญ่ และอาคารรองรับอย่างพร้อมสรรพ เริมด้วย หอประชุมวิทยาลัย ที่ระบุว่าสามารถจัดประชุมนักศึกษา 1,250 ซึ่งใข้งบประมาณในการก่อสร้าง 23 ล้านบาท โดยผู้ที่บริจาคคือ "สมาคมผู้ส่งออกข้าวแห่งประเทศไทย" ที่มีนายกสมาคมคือ นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ ละคาดว่าจะตั้งชื่อว่า "หอประชุมขวัญข้าว"ต่อมาเป็นส่วนของอ่างเก็บน้ำ โดยเขาระบุว่าเกาะสมุยมีปัญหาในการขาดแคลนน้ำ และโรงเรียนนี้ไม่ได้ทำการค้าขายหวังกำไรจึงไม่มีเงินที่จะไปซื้อน้ำ จึงได่ขุดอ่างเก็บน้ำไว้ใช้เองโดยใช้เนื้อที่ถึง 10 ไร่ และขุดลึกลงไป 9 เมตร จากนั้นเป็นสะพานเชื่อมพื้นที่อาคารอำนวยการ ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการกับหอประชุม และมีศาลากลางน้ำโดยมีตระกูล "บุญศรีโรจน์" บริจาาคก่อสร้างในราคา 2 ล้านบาท ส่วนของหอพักนักศึกษา ปัจจุบันมี 2 หอพัก แบ่งเป็นหอพักชายหญิง แยกกัน โดยแต่ละหอจะเป็นอาคารสามชั้น พักได้ชั้นละ 70 คน รวม 210 คน ซึ่งปีนี้จะมีเฉพาะหอพักของนักศึกษาปี1 ซึ่งจะจัดสร้างจนครบชั้นปีของนักศึกษาที่จะมีในอนาคต ทั้งนี้ในหอพักจะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเป็นห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ทั้งแยกและรวม เตียงนอน ลิ้นชักและตู้เก็บของ ซึ่งแต่ละชั้นจะมีห้องพักครูอยู่ด้วยส่วนของบ้านพักครูก็จะแยกเป็นสัดส่วนสำหรับ อาคารอำนวยการ ใช้งบประมาณก่อสร้าง 9 ล้านบาทเศษ มี บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ เป็นผู้บริจาค ต่อมาเป็นภาควิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ประกอบด้วยห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 2 ห้อง ห้องเรียน 5 ห้อง โดยมี บริษัททรูคอร์เปอรเรชั่น เป็นผู้ออกค่าก่อและสนับสนุนวัสดุการเรียนการสอนทั้งหมดถัดมาเป็นอาคารห้องปฏิบัติการ 3 หลัง เป็นห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์และห้องปฏิบัติการภาษา โดยจะมีหลังละ 4 ห้องรวมทั้งหมด 12 ห้อง มี ปตท. เป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย 4.3 ล้านบาท และ สันติบุรีรีสอร์ท เป็นผู้บริจาคอีก 4.3 ล้านบาทขณะที่โรงอาหารและโรงครัวสองหลัง ใช้งานได้หลังละ 500 คน มูลค่ารวม 10 ล้านบาท บริษัทคิงเพาเวอร์ เป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ด้านอาคารอเนกประสงค์ ขณธนี้ "สุเทพ" ระบุว่ากำลังมี "นิสิตเก่าจุฬาฯ" หารือออกเรื่องค่าใช้จ่ายและสุดท้ายคืออาคารหอสมุดกลาง มูลค่า 10 ล้านบาท ถูกระบุว่า สนับสนุนโดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และ เพื่อน เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งนี้ "สุเทพ" ระบุว่า กว่าจะสมบูรณ์จะใช้เงินราว 700-800 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาก็มีบริจาคจากมวลชนกลุ่ม กปปส.เป็นระยะๆ ความน่าสนใจของโรงเรียน แห่งนี้จึงไม่ใช่อยู่ที่การเปิดการเรียนการสอนเท่านั้น แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่า "ใครบ้าง" มีคอนเนคชั่นอันดีและพร้อมสนับสนุน "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ผู้ที่ยังโลดแล่นอยู่กลางเวทีการเมือง