
ผู้สื่อข่วได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า กำลังมีการขุดค้นโดยมีการเปิดหน้าหลุมขนาดกว้าง 3 คูณ 3 เมตร บริเวณลานวัดจอมศรี ฝั่งทิศเหนือ ติดกับหอระฆังภายในวัด โดย น.ส.พิกุล สมัครไทย ตำแหน่งนักโบราณคดีชำนาญการ เปิดเผยว่า หน่วยงานมีภารกิจในการที่จะขุดค้นศึกษาแหล่งโบราณคดีในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งสำนักงานมีพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด 7 จังหวัด
คือ หนองบัวลำภู หนองคาย สกลนคร เลย อุดรธานี และขอนแก่น ในปีนี้เราก็เลือกที่จะทำการขุดค้นศึกษาแหล่งโบราณคดีในพื้นที่เมืองโบราณศรีฐาน เพราะเห็นว่าในปัจจุบันพื้นที่ตรงจุดใจกลางเมือง มีโครงการบ้านจัดสรร โครงการทำถนน ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบกับพื้นที่นี้ ทางสำนักงานมีความจำเป็นที่จะมาเก็บข้อมูลในพื้นที่แห่งนี้
ส่วนพื้นที่นี้ กรมศิลปากรได้เข้ามาสำรวจและบันทึกหลักฐานไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2528 แล้ว ประกอบกับการศึกษาภาพถ่ายทางอากาศ จะเห็นว่าชุมชนแห่งนี้เป็นเมืองโบราณที่มีคูน้ำล้อมรอบ ไม่ใช่เฉพาะแต่ภายในวัด แต่เป็นทั้งหมู่บ้าน ทางกลุ่มโบราณคดี จึงทำเรื่องของอนุมัติงบประมาณไปที่กรมศิลปากรเพื่อขุดค้นในครั้งนี้
"สาเหตุที่เลือกขุดตรงนี้เพราะว่า ตรงจุดนี้ เป็นจุดที่สูงที่สุดของเมืองขอนแก่น และหลุมที่ขุดนี้เป็นจุดที่สูงที่สุดของบ้านศรีฐานเช่นกัน และเป็นที่ยังไม่มีใครใช้ประโยชน์ มีการรบกวนน้อย เพราะฉะนั้นจุดประสงค์ที่จะศึกษาคือศึกษาชั้นพัฒนาการทางโบราณคดี ของที่ได้ขึ้นมาทุกชิ้นนี้มีประโยชน์หมด จะมีแต่คนถามเราว่าทำไมไม่ไปขุดที่อื่น มันน่าจะมีของสำคัญมากกว่า
แต่วัตถุประสงค์ของสำนักงานที่จะขุดหาวัตถุโบราณ เราขุดเพื่อศึกษาเศษภาชนะดินเผาที่ได้ขึ้นมา ชั้นดินทับถมต่างก็สามารถศึกษาได้ทั้งหมด สิ่งที่ขุดพบในตอนนี้ จะมีแต่เศษภาชนะดินเผา เครื่องมือเหล็กบ้างเล็กน้อย กระดูกสัตว์บ้าง อายุของสิ่งที่ขุดพบยังไม่สามารถที่จะระบุชัดเจนได้ แต่ว่าโดยลักษณะทั่วไปจากการประเมินจากหลักฐานที่พบ ศึกษาเปรียบเทียบกับแหล่งโบราณคดีอื่นๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน กำหนดอายุไว้ประมาณ 2,500 ถึง 1,000 ปีมาแล้ว นับจากปัจจุบัน ก็คือที่นี่จะมีหลักฐานทางโบราณคดี 2 ช่วงก็คือ
ช่วงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย เป็นหลักฐานที่พบจะเป็นโครงกระดูก เศษภาชนะดินเผา และของที่อุทิศให้กับศพ จะต่อเนื่องมาอีกประมาณ พ.ศ. 1,200 กว่าปี จะมีศาสนาพุทธเข้ามา ในช่วงหลังจากนี้จะไม่เจอโครงกระดูกแล้ว แต่จะเจอหลักฐานเป็นใบเสมา ซึ่งจะเจออยู่ก่อนแล้ว ไม่ได้ขุดเจอในหลุมขุดค้นในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าชุมชนแห่งนี้มีพัฒนาการต่อเนื่อง 2 สมัย และจากที่ขุดค้น บนชั้นดินบนสุดเจอหลักฐานที่เป็นเศษภาชนะดินเผาสมัยโบราณปะปนอยู่กับพวกเศษพลาสติก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีคนเข้ามาอยู่อาศัยมาเมื่อไม่กี่ 100 ปีมานี้" น.ส.พิกุล กล่าว
น.ส.พิกุล ยังกล่าวอีกว่า วัตถุโบราณที่ขุดได้มานี้ จะต้องเอาไปล้างทำความสะอาดและศึกษาวิเคราะห์ แต่ตามกฎหมายนั้นของทุกอย่างที่อยู่ใต้ดิน ไม่ว่าจะอยู่ในที่ดินโฉนดของใครก็ตาม ถ้าอยู่ใต้ดินแล้ว ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าบรรพบุรุษเป็นผู้ฝังไว้ ของทุกอย่างจะต้องตกเป็นทรัพย์ของแผ่นดินตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สำหรับวันนี้ ขุดได้ประมาณหนึ่งเมตร การขุดค้นจะใช้แต่แรงคนเพียงอย่างเดียว ใช้อุปกรณ์เบา เพราะจะต้องเก็บหลักฐานอย่างละเอียด เก็บหลักฐานทุกๆ 10 เซนติเมตร โดยจะใช้เวลาในการขุดทั้งหมด 6 เดือน เริ่มจากเดือนมีนาคมไปสิ้นสุดที่เดือนสิงหาคมนี้