ตลอดวันนี้เหล่าบรรดา "คนข่าว" ทุกรุ่น ทุกสื่อ ทุกสำนัก ต่างร่วมแสดงความอาลัย แสดงความเสียใจ ต่อการสูญเสีย นักข่าวภาคสนาม นาม "เจ๊ยุ" นักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล (ตลอดกาล) ที่เป็นดั่ง "ตำนาน" ของคนวงนักข่าว อย่างสุดซึ้ง
"เนชั่นทีวี" ขอน้อมนำข้อความโดยย่อที่ "คนข่าว" (บางส่วน) จากหลายหลายสื่อ ที่วันนี้ได้โพสต์ข้อความถึง "เจ๊ยุ-ยุวดี ธัญญสิริ" นักข่าวภาคสนามประจำทำเนียบรัฐบาล (ตลอดกาล!) ด้วยความรัก ความทรงจำ และอาลัย อาทิ...
จิตวิญญาณสุดท้ายของ เจ๊ยุ.เจ๊ยุ เริ่มงานข่าวที่ Bangkok World หลังฝึกงานในสำนักพิมพ์เดียวกัน เมื่อยุบ Bangkok World ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ข่าวการเมืองฉบับบ่าย บริษัทโพสต์พับลิชชิ่ง จำกัด ได้โอนนักข่าวที่ไม่ได้ย้ายสังกัดมาอยู่ Bangkok Post หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษฉบับเช้า โดยอยู่ประจำทำเนียบรัฐบาลเป็นต้นมาจนเกษียณอายุเมื่อปี ๒๕๕๐ และยังเป็นนักข่าวอิสระให้ต้นสังกัดเก่าต่อไป จนกระทั่งทำเนียบรัฐบาลจัดระเบียบการเข้าออกของนักข่าว แต่ด้วยจิตวิญญาณของวิชาชีพ เจ๊ยุยังคงออกจากบ้านทุกเช้า มานั่งติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ตรงข้ามโรงพยาบาลวชิระ จนกระทั่งเสียชีวิต.กิติศัพท์เจ๊ยุในฐานะนักหนังสือพิมพ์อาวุโสประจำทำเนียบมีมากมาย ทั้งนินทาและชื่นชมจากนักข่าวด้วยกันและจากแหล่งข่าว แต่ที่เห็นตรงกันก็คือความซื่อตรงในวิชาชีพ (integrity) และความมุ่งมั่นต่อหน้าที่ (commitment).. บรรยงค์ สุวรรณผ่อง๑๐ มีนาคม ๒๕๖๐
...... ผมเริ่มทำข่าวการเมืองเมื่อราว 40 ปีก่อน คุณยุวดี ธัญญสิริ หรือที่แวดวงนักข่าว นักการเมือง เรียกว่า "เจ๊ยุ" ก็ประจำการในตำแหน่งนักข่าวอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลก่อนหน้านั้นแล้ว กิตติศัพท์เลื่องลือ เรียกกันว่าเป็น "เจ้าแม่ทำเนียบ" ผู้จัดระเบียบ "รังนกกระจอก" เคร่งครัดหลักการ อบรมบ่มเพาะนักข่าว ที่ไม่เข้าท่าเข้าทาง แต่งเนื้อแต่งตัวไม่เรียบร้อย ก็ยาวนานพอๆกับที่เจ๊ยุประจำการอยู่ที่นั่น
นักข่าวการเมืองอายุ 20 ต้นอย่างผม เดินเก้ๆกังๆ ทำข่าวในทำเนียบ ก็ยังเคยถูกเจ๊ยุ เอ็ดเอาก็หลายครั้ง ความรู้สึกในตอนนั้น ประกอบกับใบหน้าที่เรียบเฉยของเจ๊ ทำให้คิดว่ายายคนนี้ดุจัง ไม่ค่อยกล้าเฉียดใกล้
ผมเป็นนักข่าวการเมืองประจำสายสภา จะไปทำเนียบบ้างเป็นครั้งคราว แล้วแต่ประเด็นข่าวที่ต้องไปตาม จึงไม่ได้สนิทกับเจ๊มากนักในตอนต้น พบเจอกันคราวใด คล้ายรังสีอำมหิตของเจ๊จะแผดเผาผมเป็นจุณ เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง หลีกได้เป็นหลีก นานหลายสิบปีจากนั้น จึงได้มีโอกาสคุ้นเคยกับเจ๊ และได้พบความจริงว่าตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่าน ผมคิดผิดมาตลอด
เมื่อได้มีโอกาสสนทนากันหลายครั้ง ทั้งที่เป็นทางการในบทบาทกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ หรือร่วมอภิปรายเวทีเดียวกัน และไม่เป็นทางการบ่อยครั้งในระยะหลังเมื่อเจ๊ ถูกประกาศิตห้ามเข้าทำเนียบ แต่วิถีชีวิตเจ๊ยังเป็นเหมือนปกติ ตื่นเช้ามาทำงาน มานั่งในห้องสมุด สมาคมนักข่าวฯ บ่ายแก่ๆ พลขับก็รับกลับบ้าน
ตัวตนของเจ๊ คือนักข่าวโดยสายเลือด หยิ่งทะนงในเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นนักข่าว และเป็นคนที่มีอัธยาศรัยไมตรี มีความเมตตาสูง.....เจ๊ยุจากไปแล้ว ด้วยกฎธรรมชาติแห่งชีวิต แต่เจ๊ยุจะไม่มีวันพรากจากหัวใจของพวกเราตลอดกาล
จักร์กฤษ เพิ่มพูล
ในความทรงจำนอกเหนือจากความเป็น "นักข่าวมืออาชีพ" ที่ผ่านประสบการณ์มาตลอดช่วงชีวิตแล้วในวัยที่ย่างเข้าสู่ปีที่ 72 "เจ้ยุ" ยังเป็นพี่ และเพื่อน ที่คอยให้คำแนะนำและปรึกษาในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นนักข่าวรุ่นไหน ข้าราชการ หรือแม้แต่แม่ค้าในทำเนียบไม่เคยมีใครเรียกเจ้เป็นอย่างอื่น จากรุ่นสู่รุ่นเจ้ก็ยังคงยืนหยัดเป็น"เสาหลัก" เป็น "สัญลักษณ์ของนักข่าว" ไม่เปลี่ยนแปลง.....วันไหน..ที่น้องๆ ถูกกระทำหรือโดนรังแก เจ้ จะเป็นเดือดเป็นแค้น เดินปึงปังมาหาทันที วางกระเป๋าโครม ถามไถ่ด้วยความห่วงใย พร้อมกับบอกเสมอ "ไม่ต้องไปกลัวมัน ไม่มีใครทำอะไรเราได้ เราทำตามหน้าที่ บ้านเมืองเขามีกฎหมาย มันกล้าก็ลองดู แต่ก็อย่าประมาทนะ แต่ไม่ต้องไปกลัว..." สีหน้าและแววตาของเจ้สร้างความฮึกเหิมในจิตใจได้ทุกครั้ง... "...เป็นนักข่าวอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ จำคำพี่ไว้นะตรงไหนมืด เราก็ยังไม่ต้องเข้าไป เสรีภาพสื่อ เสรีภาพของประชาชน..."ถึงพวกเราจะนั่งแค่บันได แต่หน้าที่ของเรามีเกียรติไม่แพ้ใคร เราทำงานไม่ต้องไปกลัวใครทั้งสิ้นถึงวันนี้เจ้คงอยากพัก ไม่เป็นไรนะเจ้ ขอสัญญาว่าพวกเราจะทำหน้าที่สานต่อปณิธานของเจ้ ด้วยจิตวิญญานของคนข่าวต่อไป ...พักผ่อนนะเจ้นะจากศิษย์ของเจ้...สุมณฑา บุญคุ้ม....
พี่ยุล่วงหน้าไปแล้ว...รักนะ เจ๊ Rungmanee Mekhasobhon
พักผ่อน นะเจ๊......หลับ ให้สบาย เจ๊เหนื่อย มามากแล้ว"เจ๊ยุ"จะอยู่ในหัวใจ และความทรงจำของพวกเราตลอดไปและจะไม่ลืม สิ่งที่ เจ๊สอนไว้ขอบคุณ เจ๊ ที่สั่งสอน ที่ เมตตาเหรียญ"หลวงพ่อคูณ ขี่รถถัง" ที่หายากมาก เจ๊ ยังเอามาให้ เล็ก ขอบคุณ จริงๆ เล็กจะ คิดถึง เจ๊ ตลอดไปนะ เพราะเล็ก สวดมนต์ บท "ชินบัญชร" ที่เจ๊ สอน ทุกวันรัก เจ๊ นะ ......เจ๊ยุ "ยุวดี ธัญญสิริ"ถึงแก่กรรมอย่างสงบ03.30 น.10 มีนาคม 2560พิธีรดน้ำ ที่วัดโสมนัสฯ(รอประสาน ศาลา อาจเป็น11มีค.)Wassana J. Nanuam
ธงใน สุภาพ คลี่ขจาย ลดลงครึ่งเสา ไว้อาลัยแด่ "คนทำข่าว" ที่ไม่เคยถอดจิตวิญญานไปเป็นอย่างอื่นเลยแม้ว่าในช่วงที่สามีเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมเขาบอกว่าเจ๊ยุ เป็นเจ้าแม่ เป็นมาเฟีย นักข่าวใหม่ๆ จะหวั่นเกรง กลัว เจ๊ยุ ดุ ถ้าถามไม่เข้าร่องเข้ารอยแต่มีใครจะรู้บ้างว่า คราใดที่ผู้มีอำนาจหงุดหงิดใส่นักข่าวเจ๊ยุ นี่แหละทีาแอ่นอก ออกหน้า เป็นกันชนต่อกรกับผู้มีอำนาจคนนั้นแทนคราใดที่"รังนกกระจอก"ในทำเนียบจะถูกรุกรานเราจะได้เห็นภาพ"แม่นกหวงรัง" ของเจ๊ยุออกมาปกป้องวันนี้ไม่มี"แม่นก"คอยเป็นกันชน /คอยปกป้องลูกนกที่ปีกยังแก่กล้าไม่พอวงการข่าวสูญเสีย"ตัวแม่"ของวงการข่าวผม- สุภาพ คลี่ขจาย สูญเสียหยดน้ำตาและสงบนิ่งอาลัย เจ๊ยุด้วยจิตคารวะ
ด้วยรัก ด้วยความเคารพ ด้วยความนับถือแด่ เจ๊ยุ ยุวดี ธัญญสิริ นักข่าว ผู้ห้าวหาญจากหัวใจ ฐปณีย์ เอียดศรีไชยเจ๊จะอยู่ในใจและความทรงจำของแยมตลอดไปค่ะขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวธัญญสิริคุณยุวดี ธัญญสิริ จากไปอย่างสงบที่ รพ.พระมงกุฏเกล้าเมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 10 มีนาคมThapanee Ietsrichai
"เจ๊ยุ" ความธรรมดา ที่ยิ่งใหญ่สิ่งที่นักข่าวรุ่นหลังให้ความเคารพ "เจ๊ยุ" ยุวดี ธัญญศิริ" คงไม่ใช่ว่าแกเป็นนักข่าวที่เก่ง ฉกาจฉกรรจ์ ผิดมนุษย์มนา แต่เป็นเพราะเจ๊เป็น "นักข่าวธรรมดาๆ"ความธรรมดาที่สม่ำเสมอ ที่มั่นคง ที่สุดมันคือความยิ่งใหญ่ความธรรมดาๆ ของเจ๊ คือไม่ว่าผ่านกี่ยุคกี่สมัย แกก็ยังเป็นนักข่าวความยิ่งใหญ่ของเจ๊ คือความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ มั่นคงในวิถีจนวาระสุดท้าย....และนี่คือตำนาน "นักข่าวธรรมดา" ที่ยิ่งใหญ่ในใจผมตลอดไปSatien Viriyapanpongsa
อาลัย..เจ๊ยุ เมื่อแรกเริ่มที่ผมเข้ามาทำงานเป็นนักข่าวใหม่ๆ เมื่อปี 2535 ประจำอยู่สายการเมือง ต้องวิ่งไปวิ่งมาหาข่าวจากรัฐสภา ไปทำเนียบ และไปพรรคการเมืองต่างๆ ในภาคสนามผมก็มักได้เจอเจ๊ยุอยู่เป็นประจำ ได้เห็นเจ๊กล้าซักกล้าถามแหล่งข่าวที่เป็นคนใหญคนโตอยู่บ่อยๆยิ่งถ้าได้ไปทำข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลทีไร ก็มักไม่พลาดที่จะได้เจอเจ๊ ผมก็จะต้องเข้าไปสวัสดีทักทายเจ๊ยุทุกครั้งไป ตลอดเวลา 25 ปีที่ผ่านมา....จากนักข่าวรุ่นลูกอ๋อย-กฤษนะ ละไล
ฯลฯ
หมายเหตุท้ายเรื่อง... กำหนดการสวดพระอภิธรรมศพ นางยุวดี ธัญญสิริ ณ ศาลา 10 วัดโสมนัสราชวรวิหาร-รดน้ำศพ วันที่ 11 มี.ค. เวลา 16.00 น. ณ ศาลา 10 -กำหนดสวดพระอภิธรรมศพ เป็นเวลา 7 วัน ณ ศาลา 10 /วันที่ 11 มี.ค. เวลา 18.00 น./ วันที่ 12-17 มี.ค. เวลา 18.30 น.-พระราชทานเพลิงศพ วันอาทิตย์ที่ 19 มี.ค. 60 เวลา 14.00 น.