svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"โหล่งขอดโมเดล"คนอยู่กับป่าอย่างยั่งยืน

ชุมชนตำบลโหล่งขอด นำร่องแผนปฏิบัติการให้คนสามารถอาศัยอยู่กับป่าได้ โดยไม่มีการบุกรักพื้นที่ป่าเพิ่มเติม ถือเป็นโมเดลแรกของประเทศที่ต่อไปจะถูกนำไปต่อยอดสำหรับช่วยแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่าถูกบุกรุก ไปติดตามได้จากรายงานของคุณสแตนลี่ย์ เบนเน็ตต์

ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าถือเป็นอีกหนึ่งวาระสำคัญระดับชาติที่ยืดเยื้อมาช้านาน เช่นเดียวกับพื้นที่ตำบลโหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีเขตการปกครองกว่า 9 หมู่บ้าน รวมประชาชนกว่า 4,644 คน ที่แต่เดิมในอดีต ชาวบ้านได้เข้าไปตัดไม้ทำลายป่า และรุกเขตพื้นที่ป่าของอุทยานแห่งชาติศรลานนาสำหรับการปลูกพืชไร่สร้างอาชีพ จนเกิดปัญหาคดีสะสมจำนวนมาก ต่อมา 2548 ได้เกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ บ้านเรือนในเขตพื้นที่ชุมชนตำบลโหล่งขอดได้รับความเสียหาย ทำให้ผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้าน ต่างร่วมประชุมเพื่อคิดหาทางออกถึงการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จนเกิดขึ้นมาเป็นโหล่งขอดโมเดล ภายใต้ความร่วมมือของ 5 ภาคี ได้แก่ พระสงฆ์, ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน, องค์การบริหารส่วนตำบล,กลุ่มแม่บ้านและส่วนราชการพื้นที่อุทยานแห่งชาติ โดยการสร้างกฎกติกาภายในชุมชนภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากภาครัฐ
ชุมชนตำบลโหล่งขอดมีเนื้อที่ทั้งหมด 187,500 ไร่ พบว่าตลอดช่วง 14 ปีที่ผ่านมา มีการบุกรุกพื้นที่ป่าแล้วกว่า 7,000 ไร่ หรือ 1,800 แปลง โดยหากว่าด้วยตามกฎหมายแล้ว ผืนป่าทั้งหมดสามารถยึดคืนได้ภายใต้ กฎหมายมาตรา 22 ตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติ แต่ด้วยสภาพพื้นที่ของชุมชนแต่เดิมในอดีต ชาวบ้านอาศัยอยู่ร่วมกับป่า ทำให้ทุกภาคส่วนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญด้านอาชีพ และนำกฎกติกาเข้ามาใช้แทนการใช้กฎหมาย ด้วยการจำกัดพื้นที่ป่าไม่ให้มีการรุกล้ำเพิ่มเติม และให้แปลงเกษตรของชาวบ้าน ปลูกพืชผลเฉพาะไม้ยืนต้นเท่านั้น อาทิ มะม่วงและลำไย

โดยหากพบว่ามีชาวบ้านฝ่าฝืนรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ภาครัฐจะเข้าไปเตือน หากเตือนแล้วไม่รับฟังก็จะมีการยึดคืนพื้นที่ 4 เท่าจากปริมาณพื้นที่ที่รุกเข้าไปเพิ่มเติม และหากยึดแล้ว แต่ยังมีการฝ่าฝืนอีก ก็ทำการใช้ มาตรา 22 ยึดคืนพื้นที่ทั้งหมดให้กลับเข้าสู่การดูแลของอุทยานแห่งชาติโดยตรง
ปัจจุบันโหล่งขอดโมเดล ได้ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม โดยในปีนี้ ทางองค์การเทศบาลส่วนตำบลโหล่งขอด ได้มีการนำโมเดลดังกล่าวต่อยอดขยายไปยังทั่วอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ บนเนื้อที่เนื้อ 600,000 ไร่ ผ่านการพึ่งพาการของทั้ง 5 ภาคีร่วมกว่า 3,000 คน เพื่อให้ต้นแบบความสำเร็จของโหล่งขอดโมเดล สามารถขจัดปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต่อไปหากพื้นที่อำเภอพร้าวเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ต่อไปก็จะมีการขยายไปยังพื้นที่อื่นของจังหวัดเชียงใหม่ และหวังว่าปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าของจังหวัดเชียงใหม่จะกลายเป็นศูนย์ในระยะเวลาไม่เกิน 10 ปีหลังจากนี้