
คณะศิษยานุศิษย์ ทั้งฝ่ายสงฆ์ และฆราวาส ได้ประชุมกำหนดพิธีเบื้องต้น หลังจากที่เคลื่อนสรีระสังขารหลวงปู่ใหญ่ ออกจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ด้วยรถยนต์ในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อมายังวัดโพธิสมภรณ์ในเวลา 17.30 น. และนำประกอบพิธีภายในศาลา 88 ปี เปิดโอกาสให้พระสงฆ์ และประชาชน สรงน้ำติดต่อกันไปจนกว่าจะประกอบพิธี "น้ำหลวงอาบศพ" และบรรจุสรีระสังขาร เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ในช่วง 7 วัน จะทำบุญตักบาตรตอนเช้า ภายภัตราหารเพล และสวดอภิธรรมช่วงเย็นระหว่างนี้จะมีการหารือกำหนดพิธีอีกครั้ง โดยตั้งแต่เช้าวันนี้คณะศิษยานุศิษย์ ทหาร ครู อาจารย์ นักศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี ได้จัดเตรียมสถานที่ภายในวัดโพธิสมภรณ์ ที่มีการตั้งเต้นท์ จัดเก้าอี้ ติดแถบผ้าเหลือง-ขาว-ดำ เตรียมดอกไม้ตั้งหน้าโลงศพ พร้อมตั้งโรงทาน เพื่อรอสรีระสังขารของหลวงปู่ใหญ่ เดินทางมาถึง ที่ช่วงเย็นคณะสงฆ์สายวัดป่า จะเดินทางมาเคารพสักการะสรีระสังขารหลวงปู่ใหญ่ก่อน และจะมีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไปส่วนกำหนดจัดงานพิธ๊อย่างเป็นทางการ ทาง จ.อุดรธานี ร่วมกับสำนักพุทธศาสนาจังหวัด พร้อมรักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ และคณะศิษยานุศิษย์ทั้งฝ่ายสงฆ์และฆราวาส จะร่วมประชุมอย่างเป็นทางการเวลา 13.00 น. วันนี้สำหรับประวัติพระอุดมญาณโมลี หรือ "หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป"เป็นพระมหาเถระสายพระป่ากรรมฐานศิษย์ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตฺตมหาเถระ แม่ทัพธรรมแห่งอีสานฝ่ายวิปัสสนาธุระ,เป็นพระผู้มากด้วยเมตตาที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธา และเป็นแบบอย่างอันงดงามของพระภิกษุสงฆ์ สามเณร และประชาชนชาวอีสานมาอย่างยาวนาน ด้วยยึดหลักธรรมแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่ตั้ง มีพลังเกื้อหนุนจากธรรมะของครูบาอาจารย์ที่คอยสนับสนุนตลอดมา ปฏิปทาอันงดงามของหลวงปู่จึงเป็นครูของชีวิตที่คณะศิษยานุศิษย์ภาคภูมิใจยิ่งหลวงปู่จันทร์ศรี มีนามเดิมว่า จันทร์ศรี แสนมงคล เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2454 ตรงกับวันอังคาร แรม 3 ค่ำ เดือน 11 ปีกุน ณ บ้านโนนทัน ต.โนนทัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายบุญสาร และนางหลุน แสนมงคล ปัจจุบัน สิริอายุได้ 105 พรรษา 85 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี,ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9 (ธรรมยุต) และที่ปรึกษามหาเถรสมาคม (มส.)ในวัยเด็กอายุได้ 8 ขวบ พ่อเสียชีวิตลง จนอายุได้ 10 ปี แม่จึงนำไปฝากไว้กับเจ้าอธิการเป๊ะ ธัมมเมตติโก เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี เจ้าคณะตำบลโนนทัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2468 ณ วัดโพธิ์ศรี บ้านศิลา ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดศรีจันทร์ (วัดศรีจันทราวาส) เมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2474 มี พระครูพิศาลอรัญญเขต (จันทร์ เขมิโย ป.ธ. ๓) เจ้าคณะธรรมยุตจังหวัดขอนแก่น และเจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์ (วัดศรีจันทราวาส) เป็นพระอุปัชฌาย์,พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์มหาปิ่น ปญญาพโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ฉายาว่า"จนฺททีโป"อันมีความหมายเป็นมงคลว่า"ผู้มีแสงสว่างเจิดจ้าดั่งจันทร์เพ็ญ"อุปสมบทได้เพียง 7 วัน ได้ติดตาม หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย และ พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ศิษย์สายกรรมฐานท่านพระอาจารย์มั่น เจ้าสำนักวัดป่านิโครธาราม ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ธุดงตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนกระทั่งถึงเดือนมีนาคม พ.ศ.2475 ก่อนกราบลาหลวงปู่เทสก์เพื่อขอไปศึกษาทางด้านพระปริยัติธรรมต่อในกรุงเทพฯพ.ศ.2477 สอบนักธรรมชั้นเอกได้ในสนามหลวง สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯพ.ศ.2480 สอบเปรียญธรรม 3 ประโยค สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯพ.ศ.2485 สอบเปรียญธรรม 4 ประโยค สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯพ.ศ.2484 เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น นภวงศ์ สุจิตฺโต) สมเด็จพระสังฆราชเจ้าวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ ทรงมีบัญชาให้ไปเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรมและบาลี ณ สำนักเรียนวัดป่าสุทธาวาส ต.พระธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนครในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ.2484 ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตฺตมหาเถระ ได้ไปพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร เป็นเวลา 15 วัน ทำให้หลวงปู่จันทร์ศรีได้มีโอกาสใกล้ชิดกับท่านพระอาจารย์มั่นชั่วระยะเวลาหนึ่ง ถือเป็นกำไรแห่งชีวิตอันล้ำค่าพ.ศ.2485 ท่านได้กลับมาอยู่จำพรรษาที่วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อศึกษาเปรียญธรรม 5 ประโยคพ.ศ.2486 เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น นภวงศ์ สุจิตฺโต) ทรงมีบัญชาให้ไปเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรมและบาลี เปรียญธรรม 3-4 ประโยค ณ สำนักเรียนวัดธรรมนิมิตร ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เป็นเวลานานถึง 10 ปีโดยเมื่อปี พ.ศ.2486 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดธรรมนิมิตร ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรสงครามต่อมาวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2497 เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น นภวงศ์ สุจิตฺโต) ก็ทรงมีพระบัญชาให้มาอยู่ที่วัดโพธิสมภรณ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อทำศาสนกิจคณะสงฆ์ เนื่องจาก พระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) มีอายุเข้าปูนชรา โดยแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ และในปีเดียวกันก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต)พ.ศ.2507 โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้วัดโพธิสมภรณ์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ และในปีเดียวกันท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวงชั้นตรีพ.ศ.2519 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าคณะภาค (ธรรมยุต) และรักษาการเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานีพ.ศ.2522 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการเจ้าคณะจังหวัดหนองคายและจังหวัดสกลนครพ.ศ.2531 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการเจ้าคณะภาค 9 (ธรรมยุต) และเจ้าคณะภาค 9 (ธรรมยุต)รวมทั้ง ได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษามหาเถรสมาคม (มส.)"หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป"หรือ"พระอุดมญาณโมลี"ปกครองสงฆ์และบูรณะวัดโพธิสมภรณ์ สมกับฐานะวันหลวงประจำจังหวัด เป็นที่เคารพของพระสงฆ์สายวัดป่า มีความสัมพันธุ์แนบแนบกับ"หลวงตาพระมหาบัว ญานสัมปันโน"และเป็นที่เคารพของชาวพุทธทั้งใน จ.อุดรธานี ใกล้เคียง และทั่วประเทศ ได้เชิญชวนศิษย์สร้างพระบรมธาตุธรรมเจดีย์ ณ วัดโพธิสมภรณ์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และรับประทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชขณะที่ลูกศิษย์ได้ร่วมกับจัดสร้าง"หอเมตาธรรมบำบัดวิกฤต (CICU)"ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี น้อมบูชาคุณครูอาจารย์ ความทราบถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ร่วมบุญในครั้งนี้ 22,699,964.73 บาท