
เวลา 09.00 น.วันที่ 14 ธ.ค.59 ที่ด่านศุลกากรหนองคาย นายประยุทธ์ มณีโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภูมิภาคที่ 2 และนายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายพรชัย บัวแสน อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ 10 ต.โพนงาม อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี และนายอภินัน ขวาลา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 หมู่ 3 ต.หัวหนอง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมของกลาง รถยนต์กระบะโตโยต้า ตอนเดียว สีขาว ทะเบียน ผม 8973 ขอนแก่น และกระบะโตโยต้า ตอนเดียว สีขาว ทะเบียน บต 7009 ตาก
ทั้งสองคันด้านหลังกระบะได้ต่อเติมโครงเหล็กสำหรับบรรทุกสิ่งของ บรรทุกเนื้อกระบือ ติดฉลากด้านหน้า DE CARNE แหล่งผลิตจากประเทศอินเดีย คันละ 4 ตัน รวม 8 ตัน มูลค่าประมาณ 1,600,000 บาท ทั้งสองคนถูกแจ้งข้อหาลักลอบนำหรือพาของที่ยังไม่ชำระภาษีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรมีเจตนาฉ้อภาษีของรัฐ
นายประยุทธ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติกรรมซึ่งสอดคล้องกับการปล้นชิงเนื้อกระบือที่ อ.นาแก จ.นครพนม ก่อนหน้านี้ตรวจสอบเส้นทางแล้วพบว่า ผู้กระทำผิดฉวยโอกาสจากอนุสัญญาบาเซโลน่า ที่ให้ประเทศไทยเป็นทางผ่านสำหรับประเทศลาวที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล สามารถนำสินค้าไปยังประเทศที่สามได้ จึงเป็นช่องทางให้เมื่อมีการนำสินค้าเนื้อกระบือออกจากประเทศที่สามผ่านประเทศไทยไปยังประเทศลาว แล้วมีการซื้อเนื้อเหล่านี้จากประเทศลาวกลับเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย
ซึ่งเป็นเนื้อที่ทางการไทยไม่อนุญาตให้นำเข้า เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานที่ปศุสัตว์กำหนด แหล่งผลิตไม่น่าเชื่อถือ อาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนทำให้เกิดโรคหากคนรับประทานเข้าไปจะเป็นอันตราย และในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ทราบว่าจะมีการลักลอบนำเนื้อกระบือเข้ามาอีก จึงได้จัดชุดเฝ้าตรวจสอบ กระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. พบรถกระบะทั้งสองคนขับมาจากพื้นที่ จ.สกลนคร มาถึงเขต อ.หนองหาน มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุดรธานี จึงได้ตามประกบและจับกุมไว้ได้ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นขบวนการเดียวกันที่ศุลกากรจับกุมได้ที่ อ.นาแก จ.นครพนม และจะมีการสอบสวนขยายผลต่อไป
นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า เนื้อกระบือที่ตรวจยึดได้นี้เป็นเนื้อแปรรูปคัดเกรดอย่างดี สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองคนอ้างว่า เพียงทำหน้าที่ขับรถนำสินค้ามาส่งที่ตัวเมืองอุดรธานีเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบช่องทางในการนำเนื้อกระบือเข้ามาจำหน่ายทั้งตามห้องเย็น ร้านค้าปลายทาง เป็นป้องปรามการกระทำความผิด หลังจากนี้จะได้ประสานปศุสัตว์จังหวัดหนองคายเพื่อร่วมกันทำลายด้วยการฝังกลบเนื้อทั้งหมดทันที