
เมื่อวานนี้(13ธ.ค.) ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 72/2559 เรื่อง การแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ หลังมีผู้ร้องเรียนและคัดค้านการประกอบกิจการ โดยหัวหน้า คสช. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาศัยอำนาจตาม ม.44 สั่งระงับการสำรวจ และทำเหมืองทองคำ โดยคำสั่งนี้ มีผลทำให้ฝ่ายเกี่ยวข้อง ต้องระงับ การออกอาชญาบัตร/ ประทานบัตร และใบอนุญาตประกอบโลหะกรรม รวมถึงระงับการสำรวจ และทำเหมืองแร่ทองคำ รวมถึงต่ออายุประทานบัตร และใบอนุญาตจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ส่วนผู้ที่ได้รับประทานบัตร และใบอนุญาตเหมืองทองต่างๆ ตามกฏหมาย ให้ระงับการประกิบกิจการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป แต่ผู้ประกอบการ ยังต้องมีหน้าที่ฟื้นฟู ตามมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรม และ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำกับดูแลให้เป็นเป็นไปตามแผนฟื้นฟู
คำสั่งฉบับนี้ ยังกำหนดให้ กระทรวงสาธารณสุข ดูแลสุขภาพของประชาชน และกระทรวงแรงงาน ดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการระงับการประกอบกิจการ นอกจากนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ / วิเคราห์และวินิจฉัยข้อเท็จจริง และปัญหา พร้อมเสนอมาตรการแก้ไข และรายงานให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ
ผู้สือข่าวรายงานว่า คำสั่งนี้ มีผลโดยตรงต่อ เหมืองแร่ทองคำ ของ บ.อัครา รีซอร์สเซส ใน จ.พิจิตร เพชรบูรณ์ และ พิษณุโลก เนื่องจากเป็นเหมืองทองแห่งเดียว ที่ยังประกอบกิจการในขณะนี้ บนเนื้อที่กว่า 3,000 ไร่ โดยบริษัทอัครา รีซอร์สเซส เคยแถลงก่อนหน้านี้ว่า ยังมีแร่ทองอยู่เกือบ 40 ล้านตัน และสามารถขุดแร่ได้ถึงปี 2571 ตามอายุที่เหลือของอายุประทานบัตร