svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

พิษรักวัยเรียน! นร.สาววัย 15 คิดไม่ตก ดิ่งสะพานน้ำน่านในวันเกิด

น่าน - เกิดเหตุระทึก นักเรียนหญิงสาววัย 15 เครียด ทิ้งจดหมายสั่งเสีย ก่อนกระโดดสะพานพัฒนาเหนือ สูงกว่า 30 เมตร ลงน้ำน่านหวังฆ่าตัวตายในวันครบรอบวันเกิด เดชะบุญสิบเอกหนุ่มทหาร มทบ.38 โดดลงไปช่วยชีวิตไว้ได้ทัน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้(14 พ.ย.) พ.ต.อ.ประยูร ชำนาญคง ผกก.สภ.เมืองน่าน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองน่าน ได้รุดเข้าตรวจสอบเหตุเด็กนักเรียนหญิงกระโดดลงไปในแม่น้ำน่าน ที่บริเวณสะพานพัฒนาภาคเหนือ อ.เมืองน่าน หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ที่ทั้งพากันว่ายน้ำและนำเรือลงไปช่วยขึ้นมาจากน้ำ เข้าฝั่งนำส่งโรงพยาบาลน่านได้อย่างปลอดภัยเมื่อเวลา 12.30 น.เศษที่ผ่านมา

ที่บริเวณกลางสะพานพบกระเป๋า ภายในมีโทรศัพท์มือ จดหมายเขียนข้อความบนกระดาษ 3 แผ่น ว่า "พ่อ แม่ ตา ยาย พี่ๆเพื่อนๆ และ 4/7 ไม่ต้องเป็นจิตอาสามาช่วยกู ถ้าช่วยแถวบ้านเรียกขัดขวางความสุข แถมเสือก จอบอ แยก" และ กระเป๋าเงิน บัตรประจำตัว ทราบชื่อคือ น.ส.เอ (นามสมติ) อายุ 15 ปี บ้านอยู่ ต.ถืมตอง อ.เมืองน่าน เป็นนักเรียนระดับชั้น ม.4 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง

ด้าน ส.อ.ณัฐพล วาฤทธิ์ สังกัด มทบ.38 ผู้เห็นเหตุการณ์ และโดดน้ำลงไปช่วยเด็กนักเรียนหญิงคนดังกล่าว เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับขี่จักรยานยนต์ผ่านมาเห็นหญิงสาวแต่งกายชุดนักเรียน ยืนหน้าเศร้าอยู่กลางสะพานพัฒนาภาคเหนือที่อยู่สูงกว่าผิวน้ำกว่า 30 เมตร คนเดียวกลางแดด จึงจอดถามว่ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่ ซึ่งเด็กหญิงตอบว่าไม่มีอะไร รอญาติมารับ ตนจึงขับขี่รถออกไป

แต่ขากลับมายังพบเด็กหญิงยืนอยู่ที่เดิม จึงจอดถามอีกครั้ง แต่เด็กปฏิเสธการช่วยเหลือ จึงได้ขับขี่รถมาแจ้งตำรวจที่ตู้ยามใต้สะพาน เนื่องจากสังเกตเห็นความผิดปกติ เกรงจะคิดสั้น ซึ่งขณะที่กำลังให้รายละเอียดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้ยินเสียงดังจากกลางแม่น้ำ และมีคนตะโกนว่า คนกระโดดน้ำ จึงได้รีบลงไปช่วย เมื่อช่วยเด็กหญิงคนดังกล่าวขึ้นมาจากน้ำกันได้แล้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลน่าน ตรวจเช็กอาการ เนื่องจากเด็กอยู่ในอาการช็อกเศร้าโศกเสียใจ

เบื้องต้นทราบว่า เด็กนักเรียนหญิงดังกล่าว เป็นเด็กเรียนดี นักกิจกรรมของโรงเรียน ส่วนสาเหตุการคิดสั้นครั้งนี้ คาดว่าอาจเกิดจากการน้อยใจ เพื่อนและแฟนหนุ่ม จึงประชดด้วยการฆ่าตัวตายในวันครบรอบวันเกิด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปทางผู้ปกครอง และจะรอให้เด็กหญิงคนดังกล่าวอาการดีขึ้น จึงจะสอบปากคำอีกครั้ง พร้อมกับประสานทีมสหวิชาชีพเข้าเยียวยาสภาพจิตใจต่อไป