svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ชวน หลีกภัย" โชว์ภาพสเกตซ์จากพระองค์จริงในหลวง ร.9

นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย เล่าถึงความประทับใจในการถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมโชว์ภาพสเกตซ์จากพระองค์จริง คราวเสด็จวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม 2540

ที่บ้านพักถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง ของอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นำภาพพระบรมฉายาลักษณ์เมื่อครั้งได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ถวายงานรับใช้สนอง เบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลายครั้งในหน้าที่ และตำแหน่งต่างๆ มาให้สื่อมวลชน และประชาชนที่เดินทางไปเยี่ยมชมบ้านได้ดู
นอกจากนั้นยังมีภาพสเกตซ์ของพระองค์ท่านจากพระองค์จริง โดยฝีมือของนายชวนฯเอง ขณะร่วมพิธีในวันรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ซึ่งขณะนี้ได้รวมรวมเป็นสมุดภาพ ร่วมกับภาพสเกตซ์อื่นๆที่นายชวนฯ วาดเก็บไว้เป็นความทรงจำ และบันทึกเรื่องราว เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ทราบ พร้อมเผยความประทับใจในพระองค์ท่านว่า " ภาพที่บันทึกจากพระองค์จริง ในวันที่ 10 ธันวาคม เมื่อปี พ.ศ. 2540 ทรงเสด็จในวันรัฐธรรมนูญ บันทึกขณะที่พระองค์ท่านทรงรับสั่งกับสมเด็จพระสังฆราช ช่วงเวลาเสวยพระอาหารเพล ผมมีสมุดเล็กๆ นั่งถัดจากประธานสภาฯ จึงสเกตซ์ง่ายๆ ต่อมามีคนนำภาพลงในหน้าหนังสือพิมพ์ ถวายพระพร แล้วก็ได้เงินมา 1 แสนบาท ผมจึงได้นำเงินถวายมูลนิธิของพระองค์ท่าน"

"ชวน หลีกภัย" โชว์ภาพสเกตซ์จากพระองค์จริงในหลวง ร.9


นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย กล่าวว่า ได้เห็นในหลวงรัชกาลที่ 9 ครั้งแรกเมื่อปี 2502 ครั้งพระองค์ท่านเสด็จ ภาคใต้ครั้งแรก มาที่ จ.ตรัง โดยรอรับเสด็จฯ ขณะเสด็จฯผ่าน ถนนพระราม 6 สมัยนั้นผมเป็นนิสิตของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังจากนั้นมีโอกาสได้เข้าเฝ้าในขณะที่เป็นนักศึกษา ครั้งหนึ่งมีงานเกี่ยวกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินนาถ ซึ่งมีนิสิตนักศึกษาไม่กี่แห่งที่มีโอกาสเข้าร่วม และให้มีการแสดง
แต่ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่ได้เตรียมตัวมา ทุกคนให้ผมเป็นตัวแทนไปกราบบังคมทูลพระองค์ท่าน ขอพระราชทานอภัยโทษล่วงหน้า ถือเป็นการพูดคำราชาศัพท์ครั้งแรก ได้พูดว่าการทำงานสำคัญต้องมีการเตรียมตัวมาก่อน และได้ยกตัวอย่างการเตรียมงาน ว่าการร่างรัฐธรรมนูญก็ต้องใช้เวลาร่างหลายปี ซึ่งตอนนั้นอยู่ในช่วงการร่างรัฐธรรมนูญปี 2511 ซึ่งหลังการแสดงของนิสิตทั้งหมดเสร็จสิ้นพระองค์ท่านได้รับสั่งเท้าความถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า มาออกตัวว่าจะทำไม่ดี แต่จริงๆก็ทำได้ดี และข้อความที่ผมได้เข้าไปกราบบังคมทูลพระองค์ท่าน
ต่อมาก็เคยโต้วาทีต่อหน้าพระที่นั่ง ในโอกาสเนติบัณฑิตยสภาจัดงานสโมสรสันนิบาต ซึ่งได้รับเลือกเป็นหัวหน้าผู้เสนอ ในหัวข้อ "ภาระหญิงยิ่งกว่าชาย" เป็นการโต้วาทีระหว่างเนติบัณฑิตหญิง และเนติบัณฑิตชาย ผู้ชายยกย่องผู้หญิง ส่วนผู้หญิงยกย่องผู้ชาย เป็นการโต้วาทีแบบสนุกสนาน ตามแบบนักกฎหมาย ทุกคนสวมครุยออกมาโต้วาที ซึ่งเป็นเรื่องราวการโต้วาทีครั้งสำคัญในชีวิต

"ชวน หลีกภัย" โชว์ภาพสเกตซ์จากพระองค์จริงในหลวง ร.9


หลังจากนั้นได้มาทำงานการเมือง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยแรก ครั้งแรกที่ได้รับเสด็จสมเด็จย่าเมื่อปี 2512 ที่ จ.ตรัง พระองค์ท่านเสด็จฯมาทางเรือ และขึ้นมาเยี่ยมเยียนราษฎร มีข้าราชการ ผู้แทนราษฎร ชาวบ้านได้ไปต้อนรับ ส่วนงานผู้แทนราษฎร ต่อเนื่องมาหลายสมัย และมีตำแหน่งทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลจึงมีโอกาสทำงานให้พระองค์ท่านหลายสมัย หลายเรื่อง เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีงานในโครงการพระราชดำริมากมาย เป็นงานแรกที่พระองค์ท่านให้ความสำคัญคือ การแก้ปัญหาความยากจนของเกษตรกร ได้ตามเสด็จนับครั้งไม่ถ้วน บางครั้งประทับแรมตามต่างจังหวัด เช่น ภาคเหนือ ภาคอีสาน
นอกจากนั้นในกระทรวงศึกษาธิการก็มีหลายโครงการ พระองค์ท่านเป็นผู้ริเริ่มตั้งทุนของพระองค์ท่านนาม ทุนมหิดล คนแรกที่ได้รับทุนคือคนในจังหวัดตรัง คือนายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา ได้ไปเรียนต่างประเทศ เรียนเก่งระดับเหรียญทอง มีชื่อเสียง โครงการต่างๆที่พระองค์ท่านตั้งทุนให้นักเรียนได้เรียนต่อมาผลต่อประเทศมาก เพราะบุคคลเหล่านี้เรียนเก่ง เมื่อได้รับการศึกษามาแล้ว ก็กลับมาทำงานชดใช้ทุน ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ของบ้านเมืองมาก เป็นเรื่องที่น่าประทับใจ น่ายกย่องมาก ที่พระองค์ท่านทรงดำริคิดเรื่องนี้ ซึ่งที่เกี่ยวกับงานกระทรวงศึกษาธิการ ผมได้ริเริ่มก่อตั้งศิลปินแห่งชาติขึ้น ถวายราชทินนามพระองค์ท่านว่าเป็นเอกอัครศิลปิน ปัจจุบันศิลปินแห่งชาติก็มีทุกปี เป็นประโยชน์อย่างมากต่อการส่งเสริมงานด้านศิลปะให้เกียรติคนทำงานด้านนี้
ต่อมาได้เป็นนายกรัฐมนตรี อาจจะไม่ได้ตามเสด็จเหมือนครั้งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ แต่ได้ตามเสด็จในงานสำคัญหลายครั้ง งานที่มีแขกต่างประเทศมาเยือนประเทศไทย เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีนำเข้าเฝ้า ได้ฟังการสนทนา ได้เห็นความปราดเปรื่องของพระองค์ท่าน ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ท่านทำการบ้าน รู้ประวัติของบรรดาผู้นำที่มาเยือน พระองค์ท่านศึกษาเรื่องต่างๆอย่างผู้รู้จริงๆ และทรงเคยมีความเมตตาส่วนพระองค์กับผม ซึ่งผู้นำที่เข้าเฝ้าฯ ส่วนใหญ่จะใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งผมเองก็ไม่ถนัดแต่พอจะรู้หัวข้อหลักๆ สาระสำคัญ แต่ไม่รู้รายละเอียด แต่ถ้าผู้นำใช้ภาษาอื่น เช่น ภาษาฝรั่งเศส ผมก็นั่งตาลอย เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เชื่อหรือไม่ครับ พระองค์ท่านเมื่อถึงคุยสาระสำคัญได้หันพระพักตร์มาที่ผม แล้วตรัสว่านายกฯ ขณะนี้กำลังหารือเรื่องนี้กัน คือท่านไม่ได้ละเลยให้ผู้ที่อยู่ในวงสนทนาได้มีโอกาสรับรู้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีพระมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้

"ชวน หลีกภัย" โชว์ภาพสเกตซ์จากพระองค์จริงในหลวง ร.9

อีกเรื่องหนึ่งคือ ในระหว่างเป็นนายกรัฐมนตรี แม่ถ้วนไม่สบาย วันหนึ่งขณะรอรับเสด็จ พระองค์ท่านและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็ยืนอยู่แถวหน้า วันนั้นทรงเลี้ยวมาที่ผมยืนอยู่ ทรงรับสั่งถามว่า นายกฯ คุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง พระองค์ท่านรับสารว่าแม่ไม่สบายจากข่าวสาร ได้กราบบังคมทูลว่ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ พะยะค่ะ พระองค์ท่านรับสั่งต่อว่าต้องไปดูแลท่าน พระองค์ท่านแสดงความห่วงใย ไม่ได้ละเลย ทรงเป็นพระเมตตาอย่างยิ่ง ผมก็นำเรื่องไปบอกแม่ พระเจ้าแผ่นดินถามถึงแม่ ซึ่งแม่ดีใจมาก สร้างความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ
อดีตนายกฯ กล่าวอีกว่า ที่กล่าวมาเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ได้เล่า จริงๆมีอีกหลายเรื่องที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ บางเรื่องเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ทั้งหมดก็มีความตื้นตันใจ ซาบซึ้งในความเมตตากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชของเราทรงมีคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ต่อประเทศเรามากมาย คนรุ่นใหม่ไม่ทราบ ไม่รู้ นี่เป็นส่วนหนึ่งที่มีโอกาสเรียน เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน ที่ทรงงานมากว่า 70 ปี