เมื่อวันที่ 31 ต.ค.59 เวลา 13.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ ในฐานะรักษาราชการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อหารือถึงกรณีความชัดเจนและแนวในการจัดกิจกรรมด้านบันเทิงของผู้ประกอบการสถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ รวมถึงการจัดคอนเสิร์ตต่างๆ
จากนั้นเมื่อเวลา 16.30 น. พล.ท.สรรเสริญ เปิดเผยว่า การหารือดังกล่าวได้มีข้อสรุปเบื้องต้นแล้ว และนายสุวพันธุ์จะนำเข้าหารือต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันที่1พ.ย.นี้ เพื่อขอความเห็นชอบต่อไป โดยผลจากการหารือเบื้องต้นวันนี้ เห็นว่าการจัดกิจกรรม การแสดง และการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับความบันเทิง หากเป็นสถานที่ในอาคารมีขอบเขตชัดเจน หรือเป็นที่ส่วนตัวก็สามารถทำได้ตามปกติอยู่แล้ว แต่พล.อ.ธนะศักดิ์และนายสุวพันธุ์ มีประเด็นหารือเพิ่มเติม เนื่องจากมีการเก็บข้อมูลจากประชาชน ผู้ประกอบการ นายกสมาคมผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับธุรกิจด้านบันเทิง ที่มีความเห็นต่อมติครม.เมื่อวันที่18ต.ค.ที่ผ่านมา ขอความร่วมมือประชาชนงดจัดกิจกรรมบันเทิงนาน30วัน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน ทุกคนได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และได้แสดงความอาลัย ดังนั้นเมื่อครบ30วันคือในวันที่14พ.ย.นี้ สิ่งที่เคยทำก็ให้ทำตามปกติ
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า แต่ที่เพิ่มเติมคือ กิจกรรมที่เกี่ยวกับการแสดง มหรสพ ดนตรี หรืออื่นๆ เข้าสู่ภาวะปกติ แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อกฎหมาย ซึ่งได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ นายกสมาคมธุรกิจบันเทิง หรือธุรกิจมหรสพในพื้นที่นั้นๆ เป็นผู้ให้คำแนะนำกับผู้ที่จะจัดงานว่าแค่ไหนถึงจะเหมาะสม ยืนยันว่าทุกอย่างดำเนินได้ตามปกติ รวมถึงการออกอากาศรายการทีวี รายการวิทยุ ต้องสอดคล้องกับความรู้สึก อารมณ์ของสังคม แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้ว่าฯ หรือนายอำเภอ แต่ดุลพินิจดังกล่าวอยู่ที่ผู้จัดกิจกรรม อย่างไรก็ตาม การจัดในที่สาธารณะนั้น ต้องมีการขออนุญาตจากผู้ที่เกี่ยวข้องในการอนุมัติไม่ได้หมายความว่าใครจะจัดก็ได้
เมื่อถามว่า ละครที่ออกอากาศไปก่อนหน้านี้จะสามารถกลับมาออกอากาศตามปกติได้หรือไม่หรือจะต้องตัดเนื้อหาบางช่วงบางตอนออกหรือไม่ พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ทุกอย่างยังปกติ แต่เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับผู้จัดต้องพิจารณาโดยใช้ดุลยพินิจ เพราะผังรายการทีวีอาจจะต้องมีการสอดแทรกเรื่องการเทิดทูลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความอาลัย จึงอาจสอดแทรกรายการเหล่านี้เข้าไปในผังรายการทั้งวิทยุ และโทรทัศน์ด้วย มิเช่นนั้นถ้าผู้จัดทำอะไรหวือหวาเกินกว่าอารมณ์สังคมจะรับได้ สังคมจะกำกับท่านเองด้วย ดังนั้น การนำเสนออะไรต้องคำนึงถึงอารมณ์สังคมด้วย