svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ขับไล่สมภารวัดอ้างอมเงิน - ลวนลามสีกา

กลุ่มอดีตผู้สนับสนุนพระธิการคึกฤทธิ์ เจ้าอาวาสวัดป่านาพงษ์ ยื่นหนังสือขับไล่พระอธิการฯฐานความผิดต้องอาบัติ ปาราชิก ตัดต่อแต่งเติม พระไตรปิฎก อวดอุตริ มนุสสธรรม ฉ้อโกงเอาทรัพย์ ประชาชน กฐิน ลวงโลก จัดฉากเผาศพแม่ตัวเองโดยไร้ศพจริง และลวนลามสีกา

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 11 ตุลาคม กลุ่มพุทธพจน์จากพระไตรปิฎก นำโดยนายมานพ บุญชื่น และกลุ่มพุทธบริษัทสภา เพื่อรักษาพระธรรมวินัย นำโดยนางณัฐนันท์ สุดประเสริฐ หอบหลักฐานร้องเรียนพระอธิการ คึกฤทธิ์ โสตถิผโล (พันตรีคึกฤทธิ์ สวัสดีผล) เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง คลองสิบ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ต้องอาบัติ ปาราชิก ตัดต่อแต่งเติมพระไตรปิฎก อวดอุตริ มนุสสธรรม ฉ้อโกงเอาทรัพย์ ประชาชน กฐิน real time ลวงโลก จัดฉากเผาศพแม่ตัวเองโดยไร้ศพจริง ลวนลามสีกา เดินทางท่องเที่ยวตามลำพัง กับสาวคนสนิท(คนแรก)  ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล บงการให้ชิงตัวสาวคนสนิท(คนที่สอง) ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชนหลบหนีจากการควบคุมตัวของตำรวจกองปราบปราม นับเป็นภัยต่อพระพุทธศาสนา จึงมาร้องเรียนต่อผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาเพื่อให้ดำเนินคดีตามพระวินัย และกฎหมายอาญาแผ่นดิน



ด้าน นายมานพ บุญชื่น เปิดเผยโดยอ้างว่า ตนเป็นกลุ่มที่เคยสนับสนุนจัดกิจกรรมใหญ่ของวัดนาป่าพง โดยมีพระอธิการคึกฤทธิ์ โสตถิผโล หรือพันตรีคึกฤทธิ์ สวัสดิผล เป็นเจ้าอาวาส นำการประชุมงานทุกครั้งทั้งในและต่างประเทศตั้งแต่ปี 2555 ถึงกลางปี 2558 แต่ปัจจุบันได้ออกมาจากการสนับสนุน ทั้งกำลังทรัพย์ และกำลังคน เนื่องจากพบความจริงหลายประการที่ทำให้เชื่อว่าพระอธิการคึกฤทธิ์ ขาดจากความเป็นพระ โดยเฉพาะเรื่องสีกา จึงออกมาหาข้อมูลเพิ่มเติม โดยร่วมกับกลุ่มพุทธบริษัทสภาเพื่อรักษาพระธรรมวินัย นำโดยนางณัฐนันท์ สุดประเสริฐ ซึ่งเคยยื่นร้องเรียนเรื่องการสอนพระธรรมบิดเบือนของพระอธิการคึกฤทธิ์ ก่อนหน้ามาโดยตลอด 3 ปี จนถึงปัจจุบัน



นายมานพ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ตนพร้อมคณะได้ทำหนังสือยื่นร้องเรียนอธิกรณ์ต่อคณะพระเถระผู้ปกครอง สำนักงานพระพุทธศาสนา และฟ้องร้องเป็นคดีอาญาแผ่นดินจนถึงที่สุดกับพระอธิการคึกฤทธิ์ โสตถิผโล ไม่ว่าจะเป็นการบิดเบือนคำของพระพุทธเจ้า ซึ่งทำมาโดยตลอด และในช่วงหลังๆพ ระอธิการคึกฤทธิ์ เริ่มอุตริมนุสธรรม โดยตัดต่อตีความคำสอนให้ผิดเพี้ยน เพื่อให้ประชาชนต้องเข้าเป็นสาวกพุทธวัจนะ และยังเป็นพระภิกษุโลเลล่วงละเมิดสิกขาบทเป็นอาจิณ แสดงธรรมอย่างไรไม่เคยทำอย่างนั้น และ 2 กรณีท้ายที่ร้ายแรงและเร่งด่วนคือหลอกลวงประชาชนให้ทำบุญ โดยปกปิดบัญชีทรัพย์สินและรายได้ของวัดที่ได้จากการจัดงานต่างๆ อีกทั้งยังนำทรัพย์สินของวัดอันได้แก่ ที่ดินเข้าเป็นทรัพย์สินส่วนตัว และสุดท้ายเรื่องผู้หญิง มีทั้งข่าวที่ลวนลามกระทำอนาจารต่อพยาบาลสาวที่เข้าไปจัดยาที่ห้องงานธรรมตามคำสั่ง และที่มีหลักฐานล่าสุดคือ บินไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกับสาวอีกคนที่คนในวัดพากันสงสัยมานานแล้วว่าน่าจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน



"ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้นทั้งหมด คณะผู้ร้องเรียนจึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ตรวจสอบความจริง และติดตามค้นหาพร้อมกับนำเสนออย่างต่อเนื่อง ให้ความจริงปรากฏต่อสาธารณชน เพื่อเป็นตัวอย่างของบุคคลที่จะนำศาสนาเป็นช่องทางการหากินเพื่อส่วนตนต่อไป" นายมานพ กล่าว




ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากจบการแถลงข่าวจากกลุ่มผู้ร้องเรียน ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาซึ่งได้นั่งรับฟังตั้งแต่ต้นได้เดินออกจากห้องแถลงข่าว โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆกับเรื่องดังกล่าว