
เมื่อวันที่ 9 ต.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชื่อดัง ได้จัดพิธีเปิดระฆังวัดร่องขุ่น ซึ่งได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ ตั้งอยู่ใกล้กับกุฏิพระภิกษุภายในวัดและอยู่ด้านข้างต้นโพธิ์ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธประทานโชคลาภ มีพุทธศาสนิกชนและชมรมรักสะสมพุทธศิลป์ และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมในพิธีเปิดกว่า 2,000 คน โดยพิธีจัดให้มีขบวนแห่ทางพุทธศิลป์จากโรงหล่อภายในวัดไปยังบริเวณหอระฆังแห่งใหม่ สำหรับระฆังนั้น เป็นสีทองเข้มออกดำใบใหญ่ หล่อด้วยลวดลายศิลปะล้านประยุกต์ตามรูปแบบของอาจารย์เฉลิมชัย มีลวดลายสำคัญตรงกลางเป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพญานาค ส่วนหอระฆังออกแบบเป็นสีทอง ส่วนบนมีลวดลายที่งดงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีระฆังเล็กเป็นสีเงินห้อยอยู่ตรงกลางวงกลมภายในรูปทรงศิลปะ มีสระน้ำที่ร่มรื่นโดยมีน้ำอยู่ภายในสระทรงกลม ล้อมด้วยต้นไม้ดอกไม้ประดับ ทำให้นักท่องเที่ยวที่ไปชมอุโบสถขาวและสถานที่อื่นๆ
สำหรับพิธีเปิดระฆังใหม่จัดขึ้นอย่างเรียบง่ายโดยหลังจากมีการจัดขบวนแห่ที่สวยงามไปยังบริเวณที่ตั้งระฆังแล้ว อาจารย์เฉลิมชัย ได้นำผู้เข้าร่วมพิธีทั้งหมดกล่าวถวายระฆังโดยพระครูชาคะริยานุยุต (ท่านไสว) เจ้าอาวาสวัดร่องขุ่น อนุโมทนาบุญและให้พรก่อนรดน้ำมนต์ จากนั้นอาจารย์เฉลิมชัยได้ตีระฆังเพื่อนำร่องเป็นคนแรก พบว่าได้มีนักท่องเที่ยวต่างไปชื่นชมความงดงามของระฆังเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับสถานที่อื่นๆ ภายในวัด
อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ กล่าวว่า ตนไม่เคยคาดคิดว่าระฆังใบนี้จะได้มาตั้งอยู่ภายในวัดร่องขุ่นเพราะเดิมตั้งใจจะทำเอาไว้ 2 อันโดยนำไปถวายที่ประเทศกัมพูชา 1 อันและตั้งไว้ที่วัดอีก 1 อันแต่มีเหตุทำให้ไม่สามารถนำไปถวายที่ประเทศกัมพูชาได้และเมื่อจะจัดสร้างก็ทำได้เพียงอันเดียวจึงได้นำมาตั้งไว้ภายในวัดร่องขุ่นดังกล่าวซึ่งเป็นเรื่องที่่น่าอัศจรรย์ ดังนั้นในช่วงจัดสร้างจึงตั้งใจจะทำให้เป็นระฆังที่มีความสวยงาม เพราะระฆังที่เราพบเห็นมักจะไม่มีลวดลายที่สวยงามควบคู่ไปกับการที่ทำให้เกิดเสียงกังวาลไพเราะได้ จึงไปติดต่อช่างทำระฆังที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งธุรกิจของเขากำลังย่ำแย่แต่เมื่อได้ทำระฆังชิ้นนี้แล้วกลับมีกิจการรุ่งเรืองขึ้นและได้รับงานทำระฆังไปทั่วประเทศ