นางจุฑามาศ กล่าวว่า หลังจากที่อุโมงค์ข้ามแยกมไหสวรรค์มีการสร้างเสร็จสิ้น โดยสามารถการรองรับการใช้งานของประชาชนพอที่จะเริ่มเปิดการใช้งานได้แล้วแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งทางกรุงเทพมหานครจำเป็นจะต้องรีบเปิดใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกต่อประชาชนหลังจากที่ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินที่มีเส้นทางเชื่อมกับแยกมไหสวรรค์มีการจราจรที่ติดขัดสูงมาก โดยอาจจะทำให้ในส่วนของการลาดยางพื้นถนนบางส่วนในอุโมงค์ที่ขณะนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์นั้นอาจจะต้องล้าช้า เนื่องจาก ในระหว่างเวลา05.00-22.00น.จะเป็นช่วงระยะเวลาที่อนุญาตให้มีการใช้อุโมงค์ได้ และนอกเหนือจากเวลาดังกล่าวนั้นทางสำนักการโยธาก็จะเร่งดำเนินการในการลาดยางพื้นถนนบางส่วนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว จึงจะสามารถเปิดให้ประชาชนใช้เส้นทางในการสัญจรผ่านอุโมงค์ได้ตลอด24ชม.
ด้าน นายบรรจง กล่าวว่า เหตุที่การก่อสร้างอุโมงค์แห่งนี้ใช้ระยะเวลานานกว่า5ปี นั้นเนื่องจาก การย้ายระบบสาธารณูปโภคทั้งในส่วนของ ไฟฟ้าแรงสูง และระบบชุมสายต่างๆ นั้นเป็นระบบขนาดใหญ่ อีกทั้งอุโมงค์ดังกล่าวมีการก่อสร้างที่ต้องตัดผ่านคลองจึงมีความยากลำบากกว่าการก่อสร้างในรูปแบบปกติ ซึ่งขณะนี้อุโมงค์ยังไม่เสร็จสมบูรณ์จึงอยากขอความร่วมมือจากประชาชนในการจำกัดความเร็วไม่เกิน50กิโลเมตรต่อชั่วโมงในการที่สัญจรผ่านอุโมงเพื่อความปลอดภัย เพราะภายในอุโมงค์ยังไม่ได้มีการติดตั้งสัญญาณจราจรให้เห็นเด่นชัด และการลาดยางพื้นถนนบางส่วน ทางระบายน้ำ พัดลมดูดอากาศ ขณะนี้ยังไม่ได้มีการติดตั้ง แต่คาดว่าระยะเวลาติดตั้งไม่เกิน1เดือนก็จะสามารถดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์พร้อมให้ประชาชนใช้งานได้ตามปกติ
ขณะที่ พ.ต.อ.จิณวัตร กล่าวว่า ถ.สมเด็จพระเจ้าตากสินและแยกมไหสวรรค์เป็นถนนที่มีประชาชนใช้เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และ ถ.พระราม2ที่ประชาชนเดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม เพื่อเชื่อมต่อไปยังฝั่งพระนครโดยใช้สะพาน พระพุทธยอดฟ้า สะพานประชาธิปก และสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน หรือ สะพานสาทร ซึ่งที่ผ่านมาจากการสำรวจมีประชาชนที่ขับขี่ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถจักรยานยนต์ และรถสาธารณะผ่านเส้นทางทางนี้กว่า7หมื่นคันต่อวัน จึงทำให้มีการจราจรที่ติดขัดสูงมาก โดยช่วงเวลา05.00-.09.00น.ในวันจันทร์ถึงศุกร์การจราจรจะติดขัดมากเนื่องจากปัญหาการก่อสร้างอุโมงดังกล่าวที่ใช้เวลานานจึงทำให้ถนนต้องบีบช่องทางเดินรถให้ใช้งานได้น้อยกว่าปกติในลักษณะคล้ายคอขวด
ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้ ที่มีการเปิดให้ประชาชนใช้อุโมงข้ามแยกมไหสวรรย์ในการเดินทางก็จะลดระยะเวลาของการจราจรที่ติดขัดลงมา1ชั่วโมง ซึ่งในขณะนี้อนุญาตให้รถจักรยานยนต์สามารถให้อุโมงได้แต่ต้องจำกัดความเร็วที่50กิโลเมตรต่อชั่วโมงยกเว้นรถขนาดใหญ่ที่ยังไม่อนุญาตให้ใช้อุโมงค์แห่งนี้เพราะพื้นผิวถนนยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และอาจเกิดอันตรายต่อผู้ที่ขับขี่รถจักรยายนต์ที่ใช้อุโมงค์ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการทางลอดแยกมไหสวรรย์ ของสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการจัดระบบการจราจร (คจร.) มีมติให้กทม.ดำเนินการโครงการก่อสร้างทางลอดถนนตากสินกับถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 23 ก.พ.47
ต่อมากทม.ได้ว่าจ้างบริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ใช้งบประมาณ 969,142,655 บาท โดยเริ่มต้นสัญญาเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2554 ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน สิ้นสุดสัญญาวันที่ 9 ก.ย.56 หลังจากเริ่มสัญญาได้ไม่นานงานค่อนข้างล่าช้า เนื่องจากติดปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมแต่มีอุปสรรคในการเดินทาง และการขนส่งวัสดุอุปกรณ์ อีกทั้งติดปัญหาการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคทั้งใต้ดินและบนดิน ได้แก่ ท่อประปาสายสื่อสาร สายไฟฟ้าเสาไฟฟ้า
ดังนั้นกทม.จึงพิจารณาขยายสัญญา โดยบริษัทฯ ได้เริ่มก่อสร้าง ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 2555 ระยะเวลาการก่อสร้าง 180 วัน แต่พบว่า ผลการดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนถึง 60.74 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากช่วงปีแรกติดขัดอุปสรรคเรื่องการย้ายสาธารณูปโภคต่างๆ อาทิ การประปา การไฟฟ้า และสายท่อโทรศัพท์
ทำให้ กทม. พิจารณาขยายสัญญาให้เป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 26 พ.ค.57 ระยะเวลาการก่อสร้าง 150 วัน ระหว่างนั้นคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จึงได้พิจารณาขยายสัญญาให้เป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 1 ส.ค.57 ระยะเวลาการก่อสร้าง 288 วัน ระหว่างนั้นติดขัดอุปสรรคเรื่องการย้ายสาธารณูปโภคต่างๆ อาทิ การประปา การไฟฟ้า จึงได้พิจารณาขยายสัญญาให้เป็นครั้งที่ 4 ในวันที่ 7 ส.ค.58 ระยะเวลาการก่อสร้าง 256 วัน ระหว่างนั้นติดขัดอุปสรรคเรื่องการย้ายสายโทรศัพท์ จึงได้พิจารณาขยายสัญญาให้เป็นครั้งที่ 5 ในวันที่ 11 เม.ย.59 ระยะเวลาการก่อสร้าง 276 วัน ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาในเดือนพ.ย.59 รวมแล้ว กทม.ได้พิจารณาขยายสัญญาในการก่อสร้างให้แก่ผู้รับเหมา จำนวน 5 ครั้ง