
นายกสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ บอกว่า กรณีนกเงือกสีน้ำตาล ของนายวิกรม กรมดิษฐ์ ได้ออกมาชี้แจงทางเฟสบุคส่วนตัวว่าเป็นนกที่ถูกพบบริเวณไร่ ซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะการกระจายพันธุ์ของนกเงือกสีน้ำตาล ตามที่ปรากฎในรูป มีถิ่นกระจายพันธุ์เฉพาะบริเวณป่าทางตะวันตกของประเทศไทย และเป็นคนละสายพันธุ์กับนกเงือกที่อาศัยในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่านกตัวนี้มีพฤติกรรมเชื่องคน และไม่น่าเป็นนกป่าที่พลัดหลงมา และยังเป็นตัวโตเต็มวัย หากไม่ถูกเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กจะไม่เชื่องแน่นอน
นายสัตวแพทย์บริพัตร บอกว่า น่ากังวลว่าขณะนี้ค่านิยมของคนรวย คนมีอิทธิพลในสังคมไทย มักนิยมนำสัตว์ป่ามาเลี้ยงเพื่อประดับบารมี อย่างกลุ่มที่นิยมนกขนาดใหญ่ เช่น นกเงือก นกยูง เหยี่ยว ทำให้เกิดการลักลอบล่าลูกจากป่า โดยเฉพาะนกเงือก จากเทือกเขาบูโด อยู่ในสถานการณ์ที่เริ่มแย่ลงมาก การเพาะเลี้ยงในถิ่นอาศัยทำได้ยาก และประชากรในธรรมชาติเสี่ยงลดลง ดังนั้นจึงอยากให้กรมอุทยานฯตรวจสอบการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองหายาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีชื่อเสียงเพื่อให้เป็นตัวอย่างในการเลิกค่านิยมที่ผิดๆ และไม่ถูกมองว่าบังคับใช้กฎหมาย 2 มาตรฐาน ในนามของสมาคมอนุรักษ์นกฯกำลังรอดูท่าทีของกรมอุทยานต่อกรณีของนกเงือกสีน้ำตาล
นอกจากนี้ทาง สมาคม ยังได้ชี้แจงข้อมูลวิชาการของนกเงือกสีน้ำตาล โดยระบุว่าในภาพของนายวิกรมนั้น เป็นนกเงือกสีน้ำตาลที่มีชื่อว่า Tickell's Brown Hornbill (Ptilolaemus tickelli) มีถิ่นกระจายพันธุ์เฉพาะบริเวณป่าทางตะวันตกของประเทศไทย ส่วน นกเงือกสีน้ำตาลที่พบได้ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นชนิดที่มีชื่อว่า นกเงือกสีน้ำตาลคอขาว หรือ Austen's Brown Hornbill (Ptilolaemus austeni) ที่มีถิ่นกระจายพันธุ์จำกัดอยู่เฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งกลุ่มป่าดงพญาเย็น
ซึ่งลักษณะรูปร่างหน้าตาของนกเงือกสีน้ำตาลทั้ง 2 ชนิด ก็แตกต่างกันอีกด้วย โดยนกเงือกสีน้ำตาลคอขาวที่พบในบริเวณเขาใหญ่ หากเป็นนกเพศผู้ จะมีลำคอเป็นสีขาวเห็นได้ชัดเจนตามชื่อ ส่วนนกเพศเมียถึงแม้จะมีคอเป็นสีน้ำตาล แต่ใบหน้าและคางจะเป็นสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ ไม่ใช่สีน้ำตาลอมส้มเห็นได้ชัดเจนเหมือนนกเงือกสีน้ำตาลที่พบทางภาคตะวันตก
ดังนั้น การระบุว่านกเงือกสีน้ำตาลตัวนี้บินเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ไร่ซึ่งอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เองนั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะการกระจายพันธุ์ของนกทั้งสองชนิดนี้แยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง โดยไม่มีกลุ่มป่าที่เอื้อต่อการกระจายพันธุ์ให้ข้ามไปหากันได้ ทางสมาคมอนุรักษ์นกฯ จึงอยากวิงวอนให้มีการดำเนินการตรวจสอบในขั้นต่อไป เพราะนกเงือกทุกชนิดในเมืองไทยล้วนเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย