
ที่ปรึกษามูลนิธิสืบนาคะเสถียร นายศศิน เฉลิมลาภ บอกว่า ในมุมขององค์กรอนุรักษ์ทีเข้าร่วมสังเกตการณ์ภารกิจขนย้ายเสือโคร่งของกลาง ทั้งหมด 147 ตัวออกจากวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน จังหวัดกาญจนบุรี ขอชื่นชมความกล้าของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่กล้าทำลายอิทธิพลเพราะที่ผ่านมาวัดกล่าวอ้างมาตลอดว่าทำถูกต้อง ทั้งที่คนวงการอนุรักษ์รู้ว่าเสือที่นี่ไม่ชอบมาพากล และน่าจะมีเรื่องผิดกฎหมาย แม้ว่าจะล่าช้ามาถึง 10 ปี จนมีเสือออกมามาก และส่งผลให้ถูกนำไปใช้ในธุรกิจผิดกฎหมายเรื่องของสัตว์ป่าชัดเจน และจากหลักฐานที่ตรวจยึดได้ ทั้งผลิตภัณฑจากเสือ ต้องมีอะไรที่ผิดกฎหมาย จึงคิดว่าวัดไม่ควรมาทำอะไรลักษณะนี้ ถ้าไม่ประกอบศาสนกิจเป็นหลัก ก็ไม่ต้องเป็นวัด ไม่จำเป็น และควรต้องปิด
นายศศิน บอกว่า กรณีของวัดเสือเป็นบทเรียนว่ากรมอุทยานฯจะต้องเร่งสแกนวัดทั่วประเทศที่มีการเลี้ยงสัตว์ป่า รวมทั้งฟาร์มเสือทั่วประเทศว่าใช้เป็นช่องทางฟอกและค้าสัตว์ป่าหรือไม่ขณะที่นายเอ็ดวิน วีค เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนป่า บอกว่า อยากให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งแก้กฎหมายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ที่อยู่ระหว่างการปรับแก้และเพิ่มบทลงโทษที่รุนแรงจากเดิม 5-10 เท่ากับกลุ่มผู้ค้าสัตว์ป่า